สวัสดีครับเพื่อน ๆ ในครั้งนี้เราก็จะมาอัพเดทร้านอาหารญี่ปุ่น ในย่าน Japan Town ของประเทศไทยกันใน บทความ พาไปกิน 16 ร้านอาหารญี่ปุ่น ชื่อดังรสชาติความอร่อยที่ส่งตรงจากญี่ปุ่นในย่านทองหล่อ ปี 2023 EP.1 เรื่องนี้ ซึ่งจะพาทุกคนไปพบกับพิกัดร้านอาหารญี่ปุ่นชั้นเลิศที่คนรักอาหารญี่ปุ่นไม่ควรพลาดในทองหล่อกันครับ ซึ่งจะมีร้านอะไรบ้างไปรับชมกันเลย
พาไปกิน 16 ร้านอาหารญี่ปุ่น ชื่อดังรสชาติความอร่อยที่ส่งตรงจากญี่ปุ่นในย่านทองหล่อ ปี 2023
ร้าน Kakigoya (คาคิโกย่า)
Kakigoya ทะเลญี่ปุ่นใจกลางทองหล่อ เรียกได้ว่าเป็นร้านอาหารที่หยิบยกเอาบรรยากาศของความเป็นตลาดปลา หมู่บ้านชาวประมง และท้องทะเลญี่ปุ่น มาไว้ใจกลางทองหล่อได้อย่างยอดเยี่ยม สำหรับร้าน Kakigoya ร้านอาหารซีฟู้ดสไตล์ปิ้งย่าง ที่กว่า 80% ของวัตถุดิบ บินตรงมาจากทะเลญี่ปุ่นกันแบบสดๆ สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง โดยเฉพาะบรรดาหอยต่างๆ ที่ยกขบวนกันมาทั้งหอยนางรมตัวโตๆ หอยเชลล์ หอยตลับ หอยปีกนก หอยงวงช้าง หอยเป๋าฮื้อ และอีกหลากหลายชนิด สับเปลี่ยนหมุนเวียนตามแต่ฤดูกาล ให้ชาวไทยได้ลิ้มลอง เปิดประสบการณ์ความอร่อยในระดับพรีเมี่ยม เซตปิ้งย่าง Hamayaki Mori (1,900++ บาท) เมนูปิ้งย่างบนเตาถ่านแบบญี่ปุ่น จะปิ้งเองหรือให้ทางร้านบริการให้ก็ได้ ประกอบไปด้วย หอยสังข์ (Sazae) หอยเชลล์ (Hotate) หอยเป๋าฮื้อ (Awabi) หอยตลับ (Hamaguri) หอยนางรม (จากเมืองต่างๆ หมุนเวียนตามฤดูกาล) พร้อมด้วยกุ้งทะเลตัวโต เคล็ดลับอยู่ที่การพรมน้ำต้มปลาแห้งในขณะย่าง เพื่อเพิ่มรสชาติ
ที่อยู่ : ปากซอยทองหล่อ 11 (สุขุมวิท 55)
เวลาทำการ : เปิดทุกวันตั้งแต่ 16:00-00:00 น.
ร้าน Ainu Bar (ไอนุ บาร์)
ร้านนี้เรียกได้ว่าเป็นแหล่งแฮงค์เอาท์ยอดฮิตของชาวทองหล่อเลยก็ว่าได้ ใครผ่านไปผ่านมาก็คงต้องสะดุดตากับสัญลักษณ์รูปหมีและนกฮูกที่โดดเด่นอยู่หน้าร้าน รวมถึงภาพผู้คนแน่นที่ขนัดเกือบทุกคืน สำหรับใครที่กำลังมองหาร้านบรรยากาศดีๆ เพลงเพราะๆ และอาหารอร่อย เพื่อมาพบปะสังสรรค์หรือนั่งชิลล์ยามค่ำผ่อนคลายความเครียดจากการทำงาน ร้านนี้ก็ถือว่าตอบโจทย์เลยล่ะ ตั้งแต่บรรยากาศในร้านที่มีการตกแต่งแบบโมเดิร์นแฝงกลิ่นอายความเป็นอิซากายะแบบญี่ปุ่น ในคอนเซ็ปต์โรงนาของชาว Ainu ชนเผ่าโบราณของฮอกไกโด ซึ่งถือเป็นคอนเซ็ปต์หลักๆ ของร้าน และที่สำคัญภายในร้านค่อนข้างกว้างขวาง มีที่นั่งให้เลือกหลากหลาย รวมถึงยังมีห้องส่วนตัวที่มีขนาดใหญ่ถึงขั้นสามารถจัดปาร์ตี้ หรือมีตติ้งใหญ่ๆ ได้เลย Salmon Lava Roll (380 บาท) เมนูซูชิแซลมอนแบบโรล ประกอบไปด้วย แซลมอนสดๆ ชิ้นโต ห่อกับข้าวปั้นนุ่มนิ่ม รอบๆ โรยด้วยเทมปุระ ราดซอสสีชมพูสูตรพิเศษของทางร้านที่มีรสหวานนิดๆ กลมกล่อมกำลังดี
ที่อยู่ : 121 ซ.สุขุมวิท 55 ถ.สุขุมวิท
เวลาทำการ : เปิดทุกวันตั้งแต่ 17:30-00:00 น.
ร้าน Tenri Stamina Ramen (เทนริ ราเมน)
เดินทางมาที่ซอยทองหล่อกับสาขาแรกในประเทศไทย กับสุดยอดร้านราเมนท้องถิ่นที่ส่งเข้าประกวดโดยเมืองเทนริ จ.นารา พร้อมความโดดเด่นกลมกล่อมของน้ำซุปที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว จากจุดเริ่มต้นด้วยร้านราเมนแผงลอยเล็กๆ ในเมืองเทนริ สู่ 25 สาขาทั่วโลกในปัจจุบัน คงการันตีความอร่อยได้เป็นอย่างดี Spicy Yasai Ramen (240 บาท) ราเมนรสเผ็ด (นิดหน่อย) หอมกลมกล่อมด้วยน้ำซุปสูตรลับจากเทนริ ที่ให้รสชาติเฉพาะตัว ออกรสเค็มนิดๆ ท็อปมาด้วยหมูชาชูและไข่ต้มยางมะตูมที่เนียนนุ่มมาก Stamina Ramen (Size M 190 บาท) ราเมนจอมพลังซิกเนเจอร์ประจำร้าน กับน้ำซุปรสชาติแปลกแต่มีเอกลักษณ์ที่ได้จากการเคี่ยวกระดูกหมู และส่วนผสมอื่นๆ อย่างผักกาดขาวที่จะนำไปผัดในกระทะเพื่อให้มีความหอมมากยิ่งขึ้น กระเทียม กุยช่าย บวกซอสสูตรลับของทางร้านที่ให้รสเผ็ดนิดๆ แม้หน้าตาอาจจะดูเรียบๆ เทียบกับชามที่มีหมูชาชูชิ้นใหญ่ไม่ได้ แต่ถ้าเรื่องรสชาติ เราว่าไม่แพ้ใครเหมือนกันอร่อยแถมได้สุขภาพ ต้องหาเวลามาลองกันเอง
ที่อยู่ : 56/8 ซ.สุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) ถ.สุขุมวิท (ใกล้ BTS ทองหล่อ)
เวลาทำการ : เปิดทุกวัน จ.-ศ. 11:00-15:00 น, 17:00-23:00 น. ส.-อา. 11:00-23:00 น.
ร้าน Taishoken Ramen (ไทโชเคน)
อีกหนึ่งร้านราเมนที่สรรค์สร้างโดยฝีมือของเทพเจ้าราเมน Yamagishi Kazuo หรือที่ชาวญี่ปุ่นรู้จักกันดีในนาม The God of Ramen ผู้ปูรากฐานให้วงการราเมนขยายไปทั่วญี่ปุ่น และมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย จนภายหลังพากันไปเปิดร้านราเมนเป็นของตนเอง และโด่งดังกันไปหลายๆ ร้าน แถมยังเป็นผู้คิดค้น “สึเคเมน” อีกด้วย (Taishoken คือหนึ่งในนั้น) Tsukemen (260 บาท) น้ำซุปสีเข้มจากการเคี่ยวกระดูกหมูและปลาทะเลนานเกือบ 2 วัน ให้รสชาติเข้มข้นสุดๆ หอมกลิ่นปลาแห้งโชยมาอ่อนๆ จับคู่กับเส้นราเมนขนาดใหญ่แบบเหลี่ยม นุ่มเหนียวเคี้ยวสู้ฟัน แถมหมูชาชูก็หอมเอามากๆ เสิร์ฟพร้อมน้ำซุปดาชิ เพื่อใครรู้สึกเข้มข้นเกินไป ก็สามารถเทผสมให้รสชาติเจือจางลงได้ Shoyu Ramen (190 บาท) กลมกล่อมด้วยน้ำซุปกระดูกหมูสไตล์ฮากาตะและรสชาติอ่อนๆ จากซอสโชยุ ชามนี้ซดคล่องคอมากๆ
ที่อยู่ : ชั้น 1 Fifty Fifth Thonglor ซ.ทองหล่อ 2 (สุขุมวิท 55) ถ.สุขุมวิท
เวลาทำการ : เปิดทุกวันตั้งแต่ 11:00-22:00 น.
ร้าน Nagiya (นากิยะ)
ร้าน Nagiya ตกแต่งด้วยบรรยากาศสนุกๆ ของแสงสีเสียงตอนกลางคืนสไตล์งานวัดญี่ปุ่น ทำให้แอบคิดไปได้ว่ากำลังนั่งกินอาหารปิ้งย่างอยู่ในเทศกาลอะไรสักอย่างในประเทศญี่ปุ่นจริงๆ พนักงานจะส่งเสียงดังต้อนรับตั้งแต่ลูกค้าเดินเข้าร้าน คอยบริการด้วยความกระตือรือร้น จนผู้ที่มาเยือนเหมือนได้รับพลังงานให้รู้สึกกระชุ่มกระชวยหลังจากทำงานเหนื่อยมาทั้งวัน ที่นี่จึงเหมาะสำหรับการกินดื่มหลังเลิกงานเป็นที่สุด ส่วนเมนูเด่นของที่นี่คืออาหารปิ้งย่างที่มีให้เลือกจำนวนมาก จนถ้าอยากลองชิมให้ครบทุกเมนูคงต้องมาติดต่อกันทุกวันเป็นเวลาหลายสัปดาห์ โดยเฉพาะเมนูปลาฮอกเกะและปูที่ผ่านการย่างหอมกรุ่นหน้าตาน่ากิน หรือจะเป็นเมนูหม้อไฟก็มีให้เลือกมากถึง 17 แบบ Shima Hokke Yaki (240 บาท) ปลาฮอกเกะจากฮอกไกโด ย่างเกลือบนเตาถ่านกลิ่นหอมน่ากิน บีบเลมอนลงไปนิดหน่อยก็ช่วยเพิ่มรสชาติได้อย่างดี Kimuchi Motsu Nabe (800 บาท) หม้อไฟซุปมิโซะ เสิร์ฟหม้อใหญ่หน้าตาน่ากินด้วยการสุมกุ้ยช่ายตั้งเป็นแคมป์ ล้อมรอบด้วยหมูบดไก่ เนื้อหมู กะหล่ำปลี และผักโกโบ Grilled Crab Butter in The Shell of Crab (190 บาท) เนื้อปูและมันปูซูไวในกระดองปู โรยด้วยไข่แดงของไข่นกกระทา เสิร์ฟพร้อมเตาเล็กๆ ให้ย่างด้วยตัวเอง Gokai Nokke Sushi (490 บาท) ซูชิที่โปะหน้าด้วยอาหารทะเลเลิศรส ด้านในคือข้าวห่อสาหร่ายแตงกวา ด้านบนประกอบด้วยอูนิ อิคุระ เนื้อมากุโร่บด เนื้อปูซูไว และก้ามปูซูไว
ที่อยู่ : ซ.ทองหล่อ 13
เวลาทำการ : เปิดทุกวันตั้งแต่ 17:00-00:00 น.
ร้าน Ito-Kacho (อิโต-คาโจ)
เรียบหรูในบรรยากาศ อร่อยเด็ดขาดกับเนื้อพรีเมี่ยม Black Wagyu คงต้องยกให้ร้าน Ito-Kacho ร้านอาหารสไตล์ Fine Yakiniku Dining จากเมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น กับสาขาในไทยที่ตั้งอยู่ในโครงการ Nihonmura Mall ซ.ทองหล่อ 13 กับความงดงามของลวดลายชั้นไขมัน ที่แทรกอยู่ในทุกอณูของเนื้อวัววากิวระดับพรีเมี่ยม ส่งตรงจากฟาร์มจังหวัดกุมมะ ประเทศญี่ปุ่น Mini Take-Set (1,400 บาท) รวมเนื้อ Black Wagyu และ US ยอดนิยม พร้อมคัดสรรส่วนที่ดีที่สุด Toku-Jo Gyu Tongue (580 บาท : 120 g.) Toku-Jo Gyu Tongue หรือลิ้นวัวนั่นเอง เอาเข้าจริงเราควรแนะนำเป็นจานแรก เพราะคนญี่ปุ่นนิยมกินลิ้นวัวเป็นจานแรก ก่อนจะย่างเนื้อในจานอื่นๆ จานนี้เสิร์ฟคู่กับซอสเกลือสูตรของทางร้าน วิธีการคือค่อยๆ ย่างลิ้นวัวทีละด้าน บีบมะนาวพร้อมกับราดซอสเกลือลงบนลิ้นวัวเมื่อใกล้สุก ได้สัมผัสกรุบๆ เวลาเคี้ยว
ที่อยู่ : ชั้น 1 Nihonmura Mall ซ.ทองหล่อ 13
เวลาทำการ : เปิดทุกวันตั้งแต่ 17:00-00:00 น.
สรุป
เป็นยังไงกันบ้างครับกับ 6 ร้านแรก ที่เราได้นำมาฝากกันใน บทความ พาไปกิน 16 ร้านอาหารญี่ปุ่น ชื่อดังรสชาติความอร่อยที่ส่งตรงจากญี่ปุ่นในย่านทองหล่อ ปี 2023 EP.1 เรื่องนี้ มีร้านไหนที่ไปมาแล้วติดใจก็ไปบอกต่อเพื่อน ๆ มาชิมกันด้วยนะครับ ส่วนอีกทั้ง 10 ร้าน ไว้ไปต่อกันในตอนถัดไปนะครับ