สวัสดีครับเพื่อน ๆ กลับมากันแล้วกับ บทความ พาไปกิน 16 ร้านอาหารญี่ปุ่น ชื่อดังรสชาติความอร่อยที่ส่งตรงจากญี่ปุ่นในย่านทองหล่อ ปี 2023 EP.2 เรื่องนี้ ต้องขอโทษที่ให้คอยนาน ซึ่งในตอนที่ 2 นี้ เราก็ได้รวบรวมร้านเด็ด ๆ จากย่านทองหล่อมาฝากเพื่อน ๆ กันอีก 5 ร้าน ที่บอกเลยว่าถ้าพลาดร้านเหล่านี้จะต้องเสียใจแน่ ๆ
พาไปกิน 16 ร้านอาหารญี่ปุ่น ชื่อดังรสชาติความอร่อยที่ส่งตรงจากญี่ปุ่นในย่านทองหล่อ ปี 2023
ร้าน Ikkousha Ramen (อิคโคฉะ ราเมน)
เอาอกเอาใจคนรักราเมน กับอีกหนึ่งร้านราเมนย่านทองหล่อ Ikkousha Ramen ร้านราเมนชื่อดังอันดับ 1 จากเมืองฮากาตะ จังหวัดฟุกุโอกะ ที่ตอนนี้ขยายความอร่อยไปกว่า 40 สาขาทั่วประเทศ พร้อมให้ทุกคนได้อิ่มอร่อยกับสาขาแรกในประเทศไทยที่ J-Avenue ทองหล่อ กับราเมนสไตล์ฮากาตะที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เส้นเหนียวนุ่ม น้ำซุปกระดูกหมูรสชาติเข้มข้น เสิร์ฟพร้อมหมูชาชูชิ้นโตวางแผ่มาเต็มชาม Ikkousha Tokusei Ramen (270 บาท) เมนูออริจินัล กับราเมนน้ำซุปกระดูกหมูเข้มข้นสูตรทางร้าน ถูกอกถูกใจกับหมูราเมนชิ้นโตวางแผ่มา 4 ใหญ่ๆ เสิร์ฟพร้อมไข่ยางมะตูม Black Tokusei Ramen (220 บาท) ราเมนน้ำซุปสีดำที่ได้จากน้ำมันกระเทียมย่าง ที่ช่วยเน้นรสชาติของน้ำซุปให้โดดเด่นยิ่งขึ้น อีกหนึ่งเมนูแนะนำ หอมกลิ่นกระเทียมสุด ๆ
ที่อยู่ : J-Avenue ทองหล่อ (ทองหล่อ 15)
เวลาทำการ : เปิดทุกวันตั้งแต่ 11:00-00:00 น.
ร้าน Gyu-Kaku Japanese BBQ (กิวคาขุ)
ร้านปิ้งย่างที่มีสาขามากที่สุดในญี่ปุ่น และมีอีก 700 สาขาทั่วโลก ได้ขนเอาเนื้อนำเข้าจากหลายฟาร์มสุดพรีเมียมที่มีให้เลือกหลากชนิด หลายเกรด ทั้งสด นุ่มลิ้น และแทบละลายในปาก มาเสิร์ฟถึงโต๊ะในเมืองไทยโดยไม่ต้องบินไปกินไกลถึงญี่ปุ่นแล้วที่ร้านแห่งนี้ ซึ่งในเมืองไทย มีให้เลือกไปลิ้มรสเนื้อนุ่มๆ ถึง 5 สาขา ที่รักษามาตรฐานความอร่อยเดียวกับญี่ปุ่น รับรองไม่ผิดหวัง เนื้อที่เสิร์ฟในร้าน มีทั้งวากิว เนื้อมิซึจิ เนื้อท้องลาย (Harami) เนื้อซี่โครง (Karubi) เนื้อสันคอ (Rosu) ลิ้นวัว ฯลฯ หรือถ้าหากใครไม่รับประทานเนื้อ ก็ยังมีเนื้อชนิดอื่นให้เลือกสั่ง ไม่ว่าจะเป็นหมูหมักมิโซะรสหวาน สันคอหมูหมักซอสทาเระ เนื้อไก่หมักซอสโหระพา เนื้อปลาแซลมอน รวมถึงผักสด กรุบกรอบอีกมากมาย
ที่อยู่ : 115 ซ.สุขุมวิท 55
เวลาทำการ : เปิดทุกวัน จ.-ศ. 17:30-23:00 น., ส.-อา. และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 11:30-14:00 น., 17:30-00:00 น.
ร้าน Fukuda Seimen (ฟุคุดะ เซเมน)
สุดยอดร้านราเมนโฮมเมดที่ทำเราประทับใจและแอบเซอร์ไพรส์เล็กๆ ถึงความตั้งใจในการทำราเมน ซึ่งความเซอร์ไพรส์ของร้านนี้อาจไม่ได้อยู่ที่ราเมนชามโต ใส่ท็อปปิ้งมาเยอะๆ หรือว่าน้ำซุปสีสันสวยสดงดงาม ว่ากันตามตรงนี่เป็นเพียงร้านราเมนเล็กๆ ที่มีเจ้าของเป็นชาวญี่ปุ่น ไร้ความฉูดฉาด หรูหรา แต่ดูเรียบง่ายเป็นกันเองจนน่าประทับใจ กับราเมนโฮมเมด 100 % ที่ทำกันเองภายในร้านทุกขั้นตอน ว่ากันตั้งแต่การผลิตเส้นราเมน ที่ทางร้านนำเข้าเครื่องทำเส้นราเมนจากญี่ปุ่นโดยเฉพาะ ทำกันบริเวณหน้าร้านให้ลูกค้าเห็นกันชัดๆ กันไปเลย ด้านน้ำซุปต่างๆ ก็พิถีพิถัน ให้รสเข้มข้นกลมกล่อมด้วยการเคี่ยวนานถึง 10 ชั่วโมง เมนูแนะนำเมนูแรกคือ Ajitama Nikumashi Fukuda Tonkatsu (280 บาท) ทงคตสึราเมนที่ได้จากการเคี่ยวกระดูกหมูส่วนสันหลัง น้ำซุปที่ได้จึงเข้มข้นและมีความหนืดชัดเจนเข้ากันกับเส้นราเมนขนาดใหญ่ และที่เซอร์ไพรส์ไปกว่านั้นคือหมูชาชู เพราะแค่เราดูภายนอกก็แตกต่างจากร้านอื่นๆ แล้ว ชาชูของที่นี่จะนำเนื้อหมูไปเคี่ยวด้วยอุณหภูมิต่ำ ใช้วิธีการอบแทนการย่างแบบปกติ จึงทำให้ได้หมูชาชูนุ่มๆ สีสวย ไม่แห้งจนเกินไป ส่วนอีกเมนูจะเป็น Ajitama Nikumashi Tokusen Miso (300 บาท) มิโซะราเมนสูตรโฮมเมดที่ร้านใช้ซอสมิโซะถึง 4 ชนิด ทั้งนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นและประเทศจีน นำมาผสมกันพร้อมกับเครื่องเทศชนิดอื่นๆ จนได้เป็นสูตรของตัวเอง ให้รสเข้มข้นสุดๆ ไม่เหมือนที่อื่นแน่นอน โปะมาด้วยหมูชาชูและเนื้อไก่อีก 5 ชิ้นใหญ่ๆ เจ้าของบอกกับเราว่า ดูแล้วลูกค้าชาวไทยจะชอบชามนี้เป็นพิเศษ เพราะเห็นสั่งกันบ่อยๆ
ที่อยู่ : 883/1 ถ.สุขุมวิท (ร้านอยู่ริมถนนสุขุมวิท ระหว่าง ซ.สุขุมวิท 47 – 49)
เวลาทำการ : เปิดตั้งแต่ 11:00-00:00 น. ปิดวันพุธ
ร้าน Cocoro (โคโคโร)
ร้านอิซากายะเล็กๆ ในซอยทองหล่อ 13 ตรงข้ามโครงการ Nihonmura ตัวร้านแบ่งเป็น 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นส่วนของเคาน์เตอร์ครัวและเตาเทปปันยากิ แบ่งเป็นที่นั่งได้อีกนิดหน่อย หากมากันหลายคนแนะนำให้ขึ้นลิฟท์มาชั้น 2 ที่แบ่งพื้นที่เป็นห้องส่วนตัวขนาดต่างๆ และสามารถปรับให้เป็นห้องสำหรับปาร์ตี้สังสรรค์ (ที่ทางร้านบอกว่ามาจัดกันบ่อยมาก) รองรับได้เกือบ 30 คน ในบรรยากาศและการตกแต่งทั้งหมด ที่ให้อารมณ์ความรู้สึกติดกลิ่นโมเดิร์นร่วมสมัยนิดๆ ด้านเมนูอาหารของร้าน แม้จะเป็นอิซากายะแต่ก็มีเมนูให้เลือกสั่งกันได้หลากหลาย ทั้งเมนูจานด่วนสไตล์กับแกล้ม ซูชิ ชุดคัตสึต่างๆ ดงบุริ รวมไปถึงสลัดหรือของหวาน ที่แม้จะเป็นอาหารญี่ปุ่นออริจินัลแบบต้นตำรับ แต่ดูน่าสนใจด้วยการนำเสนอในรูปแบบฟิวชั่น มีกลิ่นอายของอาหารตะวันตกผสมอยู่นิดหน่อย เมนู Taiwan Mazesoba (170/200 บาท) ผสมผสานความอร่อยที่ลงตัวระหว่างเนื้อบดรสเผ็ดกับเส้นราเมนขนาดใหญ่ โปะด้วยเครื่องเคียงที่วางเรียงกันอย่างสวยงาม เอาเข้าจริงก่อนหน้าที่เราจะมา คนญี่ปุ่นใกล้ตัวแอบกระซิบบอกมาว่า Mazesoba หรือราเมนแบบแห้งของที่นี่อร่อยมาก เห็นทีว่าจะเป็นเรื่องจริง ส่วน Nikuzushi (550 บาท) ซูชิเนื้อวากิว A5 จากเมืองเกียวโต เสิร์ฟแบบ 5 รส ทั้ง ต้นตำรับ วาซาบิสับ หอยเม่น ซอสเทริยากิ และรสมะนาวผสมเกลือ นุ่มสุดๆ ไร้คำบรรยาย
ที่อยู่ : 44/11 ซ.ทองหล่อ 13 ถ.สุขุมวิท (ตรงข้ามโครงการ Nihonmura)
เวลาทำการ : อ.-ศ. 17:00-00:00., ส.-อา. 12:00-22:00 น. หยุดวันจันทร์
ร้าน Shin Yakitori (ชิน ยากิโทริ)
Shin Yakitori ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์กิน-ดื่มริมถนนทองหล่อ ที่ดัดแปลงอาคารพาณิชย์ 3 ชั้นให้เป็นอิซากายะเท่ๆ ด้วยโทนสีดำ การตกแต่งอย่างผนังอิฐบล็อก งานปูนเปลือย ชุดโครงเหล็กต่างๆ และรถตุ๊กๆ ! พร้อมด้วยอาหารญี่ปุ่นเมนูยอดนิยมครบทุกหมวดหมู่ ทั้งปลาดิบคุณภาพดี เมนูจานเดียวทั้งข้าวและเส้น ของกินเล่นสไตล์กับแกล้ม ชุดปิ้งย่างต่างๆ และแน่นอนที่ขาดไม่ได้คือยากิโทริและอาหารเสียบไม้ประเภทต่าง ๆ เมนูยากิโทริ ทางร้านเลือกใช้เนื้อไก่คุณภาพดีจากฟาร์ม ส่งตรงถึงร้านทุกวันก่อนเปิดร้านเพื่อคงความสดให้มากที่สุด ก่อนนำมาทำความสะอาดและเสียบไม้เตรียมนำขึ้นเตาเมื่อมีลูกค้าสั่งโดยไม่มีการย่างทิ้งเอาไว้เด็ดขาด มีให้เลือกทั้งแบบย่างเกลือและย่างซอสเทริยากิตามความชอบของแต่ละคน อย่าง Negima หรือสะโพกไก่เสียบสลับกับต้นหอมญี่ปุ่น Momo Wasabi สะโพกไก่นุ่มๆ แต้มวาซาบิ Nankotsu กระดูกอ่อนที่ให้สัมผัสกรึบๆ เคี้ยวเพลินเลยทีเดียว หรือใครที่ชอบเครื่องในก็มีให้เลือกเยอะใช้ได้ทั้ง ตับไก่ หัวใจ และกึ๋น
ที่อยู่ : 205/16-17 ซ.ทองหล่อ 9 ถ.สุขุมวิท
เวลาทำการ : เปิดทุกวันตั้งแต่ 17:30-00:00 น.
สรุป
แล้วก็จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับบทความ พาไปกิน 16 ร้านอาหารญี่ปุ่น ชื่อดังรสชาติความอร่อยที่ส่งตรงจากญี่ปุ่นในย่านทองหล่อ ปี 2023 EP.2 เรื่องนี้ ซึ่งทั้ง 5 ร้านนี้ ก็เหมาะกับคนที่ใช้ชีวิตกลางในเมืองกรุงมาก ๆ ที่ร้านส่วนใหญ่ มักจะเปิดทำการในเวลากลางคืน ซึ่งบ้างร้านก็เหมาะสำหรับสายดื่มมาก ๆ เช่นเดียวกับไลฟ์สไตล์ของคนญี่ปุ่น ทำให้ได้บรรยากาศเอามาก ๆ เลยล่ะ