สำหรับวันนี้คงถูกใจสายดื่มไม่น้อย เพราะเราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับร้านอาหารสไตล์บาร์แนวญี่ปุ่น ที่รวบรวมวัฒนธรรมและประเพณีการกินดื่มแบบคนญี่ปุ่นอยู่ในร้านเดียว กับบทความ ร้านอาหารแบบ Izakaya คืออะไร มีสิ่งใดที่ควรต้องรู้ก่อนหรือไม่ เรื่องนี่ สำหรับคนญี่ปุ่นแล้ววัฒนธรรมการกินดื่มนั้นสำคัญมาก โดยเฉพาะกับคนในที่ทำงาน ที่มักจะออกมาเมาและแฮงค์เอ้าท์ด้วยกันอยู่เป็นประจำไม่ว่าจะเป็นทั้งหัวหน้าและลูกน้อง เพราะคนญี่ปุ่นนั้นเชื่อว่าการที่เราได้เมาแล้วตื่นมาด้วยความแฮงค์ในตอนเช้าด้วยกัน จะเพิ่มความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในทีมมากขึ้น จึงทำให้ในปัจจุบันร้านอาหารสไตล์ Izakaya จึงเป็นที่นิยมและมีอยู่เยอะมาก ๆ ในประเทศญี่ปุ่น แถมยังเริ่มเข้ามามีบทบาทในประเทศไทยบ้างแล้วด้วยเช่นกัน ซึ่งก่อนที่เราจะไปลองสัมผัสบรรยากาศของร้านจริง ๆ เรามาทำความรู้จักและทราบในสิ่งที่ควรต้องรู้เกี่ยวกับร้านอาหารสไตล์นี้กันก่อนเลย
Izakaya คืออะไร
สำหรับร้านอาหารแบบ Izakaya จะเรียกอีกอย่างว่าร้านเหล้าสไตล์ญี่ปุ่นก็ไม่ผิด เพราะทางร้านจะเน้นการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นหลักโดยที่มีอาหารเป็นเหมือนกับแกล้มในราคาที่ถูกกว่าร้านอาหารทั่วไป ที่มนุษย์เงินเดือนชาวญี่ปุ่นเข้ามาใช้บริการทุกวันได้อย่างไม่มีปัญหา ซึ่งแรกเริ่มเดิมทีร้านสไตล์นี้จะเป็นร้านลับ ๆ ที่อยู่ตามตรอกซอกซอยเล็ก ๆ ริมถนน และ ใต้สะพาน โดยจะโดดเด่นมากับโคมไฟสีแดงเป็นสัญลักษณ์ แต่พอมาในช่วงปัจจุบันเกิดกระแสความนิยมที่แพร่หลาย ทำให้ร้านสไตล์นี้กลายเป็นร้านยอดฮิดของคนญี่ปุ่นมาจนถึงปัจจุบัน ที่ถ้าใครเคยไปสัมผัสเลยจะเห็นได้ว่าร้านที่ดูเรียบง่ายสบาย ๆ เช่นนี้แต่ทำไมกลับมีคนแน่นร้าน เสียงดังเฮฮาปาร์ตี้กันได้ทุกวัน
และอีกหนึ่งสาเหตุหลักที่ทำให้ร้านสไตล์ Izakaya ดูจะเป็นร้านที่มีคนแน่นเต็มร้านในทุกวัน คือธรรมเนียมการกินดื่มหลังเลิกงานของคนญี่ปุ่น ที่เรียกกันว่า โนมิไค ที่คนญี่ปุ่นทุกระดับทุกตำแหน่งนั้นจะให้ความสำคัญมาก ๆ อย่างที่กล่าวเอาไว้ข้างต้น จึงทำให้ร้านอาหารสไตล์บาร์ที่ตกแต่งด้วยโคมไฟสีแดง สไตล์บ้าน ๆ เล็ก ๆ ไม่หรูหรา นั้นมีคนแน่นร้านในบรรยากาศที่เฮฮาปาร์ตี้ได้ตลอดทุกคืน ส่วนร้านอาหารหรือร้านเหล้าสไตล์ Izakaya แบบนี้จะมีเมนูอาหารและเครื่องดื่มอย่างไรบ้าง เราไปรับชมกันในย่อหน้าถัดไปกันเลยครับ
Izakaya มีเมนูอะไรบ้าง
- สำหรับเมนูหลัก ๆ ของทางร้าน Izakaya จะเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีให้เลือกมากมายหลากหลายแทบจะทุกรูปแบบของญี่ปุ่น แต่สิ่งแรกก่อนที่จะสั่งเครื่องดื่มเลยนั้น ร้านอิซากายะ แทบจะทุกที่มักจะเสิร์ฟ Otoshi หรือ กลับแกล้มที่ไม่ได้สั่ง มาให้ทานเล่นเป็นออเดิร์ฟกับเครื่องดื่มระหว่างรออาหารที่สั่ง โดยตัว Otoshi นั้นอาจจะเป็นถั่วแระญี่ปุ่น , ผักดอง , หรือ เมนูจานเล็ก ๆ เรียกน้ำย่อย โดยบางที่ก็อาจจะเสิร์ฟฟรี และ บางที่ก็คิดเงินไปในบิลด้วย
ราคา : จะเริ่มต้นตั้งแต่ 300-500 เยน หรือ 80-130 บาท
- เบียร์สด หรือ Nama Biru อาจจะเป็นเครื่องดื่มหลักของคนญี่ปุ่นที่ขาดไม่ได้สำหรับร้าน Izakaya เพราะเบื้องต้นชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะชอบดื่มเบียร์มาก ๆ และ มักจะสั่งเบียร์เป็นเครื่องดื่มแรกเมื่อมาถึงร้าน เพราะเป็นเครื่องดื่มที่จัดเตรียมพร้อมเสิร์ฟได้อย่างรวดเร็ว มีปริมาณแอลกอฮอล์ที่ต่ำเหมาะกับการดื่มในยามท้องว่างก่อนอาหารจะมาถึง
ราคา : จะเริ่มต้นที่ 100-150 บาทต่อ 1 แก้ว
- เหล้า สำหรับในร้าน Izakaya นั้นจะมีเหล้าหลายแบบให้เลือก โดยส่วนมากจะเป็นเหล้าของทางญี่ปุ่น เช่น สาเก ,นิฮงซู , เหล้าบ๊วย , อุเมซู และ โซจู เป็นต้น
ราคา : จะอยู่ที่เกรดของเหล้าโดยจะมีเริ่มต้นตั้งแต่ หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน
- เหล้าผสม อย่างเช่น ซูไฮ ที่เป็นเหล้าผสมกับน้ำผลไม้หรือน้ำอัดลม , ซาว่า ที่เป็นเหล้าผสมน้ำผลไม้โซดา , และ ชาผสมเหล้าอย่างอูหลงไฮหรือโอฉะไฮ ซึ่งเครื่องดื่มจำพวกนี้จะเป็นที่โปรดปรานของเหล่าสาว ๆ มาก หรือแม้กระทั่งวิสกี้ผสมโซดา แบบสากลก็สามารถสั่งที่บาร์เทนเดอร์ได้เช่นกัน
ราคา : ก็จะขึ้นอยู่กับเกรดและประเภทของเหล้านั้น ๆ ที่มีให้เลือกตั้งแต่แบบถูกไปจนถึงแบบแพง
- เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ อย่างเช่น น้ำผลไม้ น้ำชา น้ำอัดลม ก็มีมาให้สำหรับผู้ที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ด้วยเช่นกัน หรือ น้ำเปล่าเองบางทีก็เสิร์ฟให้ฟรีเลย ซึ่งทั้งหมดก็จะอยู่ในราคามาตรฐานเหมือนกับซื้อข้างนอก
- ไก่ทอดคาราอาเกะ เป็นอีกหนึ่งเมนูยอดฮิตสำหรับสายดื่ม ที่จะเสิร์ฟมากับเลม่อน และ กะหล่ำปลีไว้คอยตัดเลี่ยน
ราคา : ก็จะอยู่ที่ 90-120 บาทต่อจานเท่านั้น
- ไข่ม้วนแบบเค็ม หรือ ดาชิทามาโกะยากิ ซึ่งจะเป็นไข่ม้วนคนละแบบกับที่อยู่ในร้านซูชิที่มีรถหวาน ซึ่งรถเค็มของไข่ม้วนตัวนี้เป็นอะไรที่ทานเข้ากับเบียร์ได้อย่างลงตัว
ราคา : ก็จะเริ่มต้นที่ 80-120 บาท ซึ่งถ้าเป็นไข่ม้วนที่มีไส้เพิ่มเติมก็จะมีราคาอยู่เฉลี่ยอยู่ที่ 200 บาท ต่อหนึ่งจาน
- ยากิโทริ หรือ ไก่อย่างเสียบไม้ เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ทางร้านขาดไม่ได้เลย หรือ จะเรียกว่าเป็นเมนูหลักลองจากเครื่องดื่มเลยก็ว่าได้ ซึ่งเมนูนี้จะมีเนื้อไก่หลายส่วนให้เลือกได้ตามชอบเสียบไม้มาพร้อมกับผักและเนื้อสัตว์ชนิดอื่น ๆ หลังจากนั้นพนักงานจะปิ้งโดยทาซอสสูตรพิเศษ มาเสิร์ฟพร้อมกับกลิ่นที่หอมหวนอบอวนไปทั้งร้าน
ราคา : ก็จะอยู่ที่ 30-40 บาท ต่อ 1 ไม้เท่านั้น
- นอกจากนี้ยังมีอาหารจานหลักอย่าง ราเมน ข้าว หรือ ซุปต่าง ๆ เองก็มีมาให้ ซึ่งราคาก็จะอยู่ในระดับอาหารจานเดียวเหมือนกับร้านอื่น ๆ ที่เริ่มต้นตั้งแต่ 150 บาท ไปจนถึง 300 บาท
ข้อที่ควรรู้ก่อนไปร้าน Izakaya
- ไม่ควรพูดกับแขกท่านอื่นที่ไม่ได้มาด้วยกัน หรือ การตะโกนข้ามโต๊ะคุยกัน
- เราสามารถทำความรู้จักและคุ้นเคยกับบาร์เทนเดอร์ได้ด้วยถ้อยคำที่สุภาพ แล้วคุณจะได้รับการต้อนรับและบริการเป็นอย่างดี
- ควรนั่งในที่ที่พนักงานเลือกให้นั่งเท่านั้น ยิ่งถ้าลูกค้าที่มาเป็นกลุ่มพนักงานจะจัดให้ไปนั่งที่โต๊ะมากกว่าที่บาร์ เพราะเพื่อจำกัดไว้ให้กลุ่มลูกค้าที่มาคนเดียว หรือ มาเป็นคู่
- เราสามารถพูดคุยถึงรสชาติหรือคุณสมบัติของเครื่องดื่มที่เราต้องการได้กับบาร์เทนเดอร์ เพื่อให้ได้เครื่องดื่มที่ถูกใจมากที่สุด โดยเฉพาะ Cocktail
- งดสูบบุหรี่ภายในร้าน ซึ่งถึงแม้ว่าบางร้านจะสามารถทำได้ก็ตาม แต่มารยาททางสังคมที่คนญี่ปุ่นเขาไม่ทำกันเลยคือการสูบบุหรี่ในวงอาหาร เพราะจะเป็นเรื่องรบกวนให้กับคนที่ไม่สูบเอามาก ๆ
- ห้ามเมา เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญเลย เพราะถ้ายิ่งคุณต้องการจะไปเที่ยวต่อด้วยแล้วร้านนี้จึงถูกใช้แค่เป็นที่เผาหัวเท่านั้น ถ้าเมาตั้งแต่เริ่มก็คงเสียดายแย่
ราคา
สำหรับเรทราคาของการมารับประทานอาหาร ที่ร้านสไตล์ Izakaya นั้นจะไม่ตายตัว เพราะจะขึ้นอยู่กับปริมาณอาหาร และ เครื่องดื่มที่คุณลูกค้าได้สั่ง ซึ่งก็จะมีตั้งแต่การมานั่งจิบเครื่องดื่มชิว ๆ หลังเลิกงาน สั่งกับแกล้มเล็กน้อย ราคาก็จะอยู่ประมาณ 300 บาทต่อ 1 ท่าน แต่ถ้าเป็นการเลี้ยงฉลองแบบชุดใหญ่ทั้งแผนก ก็จะตกอยู่ที่คนละ 1,000-2,000 บาท ในแบบที่อาหารและเครื่องดื่มจัดหนักจัดเต็ม
สรุป
เป็นยังไงกันบ้างครับ สำหรับบทความ ร้านอาหารแบบ Izakaya คืออะไร มีสิ่งใดที่ควรต้องรู้ก่อนหรือไม่ เรื่องนี่ ก็น่าจะพอทำให้ทุกท่านได้ทราบถึงธรรมเนียมประเพณีของทางร้านบ้างแล้ว ยิ่งท่านใดที่เป็นสายดื่ม และ ต้องการหาบรรยากาศใหม่ ๆ อยู่ ร้านอาหารสไตล์นี้เป็นอีกหนึ่งรูปแบบที่ควรต้องลองเลย ส่วนในวันนี้ bluewolf-japan ก็ต้องขอตัวลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ในบทความครั้งหน้านะครับ สวัสดีครับ