หลักจากที่เราได้นำเสนอประวัติคร่าว ๆ ของเมืองนาโกย่า กับเมนูอาหารที่มาแล้วต้องห้ามพลาดจากเมืองนี้กันไปแล้ว อย่างที่เราได้สัญญากันไว้ในครั้งก่อน ว่าเราจะมาชี้เป้าร้านเด็ดร้านดังจากเมืองนาโกย่าให้ทุกท่านได้แวะไปชิมกันหากได้ไปท่องเที่ยวนาโกย่าสักครั้ง ผ่านบทความ 7 ร้านอาหารรสเด็ดจากเมือง Nagoya ที่เป็นขวัญใจของชาวเมือง และ เหล่านักท่องเที่ยว เรื่องนี่ ที่จะรวมร้านดังของเมนูเด็ดทั้ง 7 เมนูที่ได้นำเสนอไปในบทความครั้งก่อนกันครับ ซึ่งจะมีร้านอะไรที่น่าสนใจบ้าง และ เมนูเด็ดของทางร้านจะเป็นอะไร พร้อมรายละเอียดเกี่ยวกับทางร้านที่ควรต้องรู้อีกมากมาย ซึ่งจะมีร้านอะไรบ้างเราไปรับชมกันเลยครับ
7 ร้านอาหารรสเด็ดในเมือง Nagoya
- ร้าน Atsuta Horaiken สาขา Jingu-ten โดยแรกเราจะพาไปกันที่ร้านข้าวหน้าปลาไหลต้นตำหลับ จาก Nagoya ที่เปิดมาตั้งแต่ปี 1983 แถมยังเป็นร้านแรกที่ได้จดทะเบียนการค้าของเมนู ฮิตสึมาบุชิ ที่เป็นข้าวหน้าปลาไหลสไตล์นาโกย่า หรือ จะเรียกว่าเป็นร้านข้าวหน้าปลาไหลร้านแรกของเมืองนี้ก็ว่าได้ และ จุดเด่นที่นอกจากจะคิดค้นเมนูนี้เป็นเจ้าแรกแล้ว ส่วนที่ทำให้รสชาติของร้านนี้อร่อยมากกว่าที่อื่น คือในเรื่องของน้ำซอสสูตรพิเศษสุดเข้มข้นที่สืบทอดกันมาตั้งแต่เปิดร้าน แบบที่ว่าเคี่ยวต่อกันมาทุกวันเป็นระยะเวลาหลายปี โดยจะนำหัวเชื้อมาเคี่ยวทุกวัน บวกกับฝีมือการย่างที่สืบทอดกันมาด้วยเช่นกันทำให้ปลาไหลของที่นี่กรอบนอกนุ่มในแบบหาที่ติไม่ได้
- ซึ่งเมนูยอดฮิตของทางร้านก็แน่นอนว่าต้องเป็นเมนู ฮิตสึมาบุชิ จะหั่นปลาไหลที่มีขนาดพอดีคำใส่มาในภาชนะชามไม้ที่เสริฟมาเป็น Set พร้อมน้ำชากับน้ำซุป ที่สามารถเทลงทานพร้อมกับข้าวจนความอร่อยเข้าไปอยู่ในร่างกายจนหมดซึ่งราคาทั้งหมดของชุดนี้ ก็จะอยู่ที่ 3,900 เยน ส่วนเวลาของทางร้านจะเปิดตั้งแต่ 11:30-14:00 เท่านั้น และ เปิดอีกทีรอบเย็นตั้งแต่เวลา 16:30-20:30 โดยจะหยุดเฉพาะวันพุธ
- ร้าน Misen สาขา Yaba โดยร้านนี้จะเป็นร้าอาหารไต้หวัน ที่ให้กำเนิดเมนูยอดฮิตประจำเมืองอย่าง ราเมงไต้หวันตามที่เราได้กล่าวเอาไว้ข้างต้น ตั้งแต่มีอาหารชนิดนี้กำเนิดมาพร้อมร้านเมื่อปี ค.ศ. 1960 ทางร้านก็ได้เปิดยาวมาจนถึงปัจจุบันนี้กันเลย ซึ่งก็อย่างที่เราได้กล่าวประวัติเอาไว้ในบทความครั้งก่อนว่า ราเมงไต้หวันนั้นคืออาหารญี่ปุ่นที่ถูกคิดค้นและทำขึ้นโดยคนไต้หวัน ที่คนไต้หวันเองก็เรียกราเมงชนิดนี้ว่าราเมงนาโกย่าด้วยเช่นกัน
- ซึ่งเมนูเด็ดของทางร้านก็ต้องเป็นราเมงไต้หวันที่มีรสชาติเผ็ดร้อนจัดจ้าน ใช้น้ำซุปโชยุปรุงรสด้วยพริก ท็อปปิ้งด้วยหมูสับ และ เครื่องเคียงต่าง ๆ ที่สามารถเลือกสรรได้ ส่วนราคาของเมนูนี้จากทางร้านจะอยู่ที่ ชามละ 630 เยน เท่านั้น ซึ่งจะถูกกว่าราเมงทั่ว ๆ ไปอยู่พอสมควร และ ยังถูกปากกับคนไทยอย่างเราอีกด้วย สำหรับเวลาทำการ ร้านจะเปิดตั้งแต่ 11:30-14:00 และ เปิดอีกที 17:00-01:00
- ร้าน Miso Nikomi no Kadomaru ร้านมิโสะอุด้งแบบนาโกย่าฉบับต้นตำหรับที่มีอายุเฉียด ๆ 100 ปี แล้ว เพราะทางร้านได้เปิดให้บริการมาตั้งแต่ในปี ค.ศ. 1926 ที่คนรักอุด้งทุกคนที่อยากลองลิ้มรสชาติของอุด้งจากนาโกย่า ต่างก็ต้องมีที่ร้านนี้เป็นอันดับแรกหากคิดถึงเมนูเส้นต้นตำหรับจากเมืองนี้ ที่ถ้าไปแล้วเช็คเวลาไม่ดีอาจจะต้องต่อคิวกันจนร้านปิดก่อนต้องมากินกันในวันหลังเลย
- ส่วนเมนูเด็ดของทางร้านที่ใครมาแล้วต้องสั่งเลยจะเป็นเมนู มิโซะ นิโกมิ อุด้ง ซึ่งเป็นเมนูที่เราได้นำเสนอไปในบทความครั้งก่อน ที่จะเสริฟมาในหม้ชามดินเผาขนาดใหญ่ลวดลายสวยงาม กับน้ำซุปมิโสะสูตรพิเศษที่รสชาติไม่เหมือนกับที่อื่น ๆ นั่นก็เพราะว่าที่นี่จะใช้เป็นตัวมิโสะแดงมาเป็็นวัตถุดิบหลักนั่นเอง น้ำซุปจึงมีรสหวานหอมปนเค็มแบบที่เป็นเอกลัปษณ์เฉพาะตัว ส่วนราคาของชามนี้ก็จะอยู่ที่ 800 เยน และ เวลาทำการของทางร้าน จะเปิดตั้งแต่ 11:30-19:00 เท่านั้น
- ร้าน Misokatsu Yabaton Honten สาขาใหญ่ ที่ใครกำลังมองหา มิโสะคัตสึ หรือ หมูทอดสทงคัตสึแบบฉบับโอสาก้า ต้องมองมาที่ร้านนี้เป็นที่แรก ด้วยความโดดเด่นของร้าน กับชื่อเสียงอันเรื่องรือที่ถูกยกให้เป็นราชาของหมูทอดประจำเมืองขวัญใจผู้คนมาจนทุกวันนี้ กับประสบการณ์ในการผลิตหมูทอดให้กับชาวเมืองมานานร่วม 60 ปี การันตีโดยหนังสือไกค์บุ๊กต่าง ๆ ที่ร้านนี้จะถูกยกขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งในเรื่องของหมูทงคตสึอยู่เรื่อยมา
- สำหรับเมนูเด็ดของที่นี่นอกจา มิโสะคัตสึ แล้ว เมนูอื่น ๆ ที่น่าลองอย่าง เทปปังทงคัตสึ ในราคา 1,404 เยน กับ วาราจิทงคัตสึ ในราคา 1,296 เยน ก็เป็นเมนูหมูทอดสไตล์นาโกย่าที่ผู้คนชื่นชอบด้วยเช่นกัน และ สาเหตุที่ต้องยกมาให้ถึง 3 เมนู ก็เพราะร้านยาบะตงนั้นค่อนข้างได้รับความนิยมมาก ๆ จึงทำให้บางเมนูนั้นหมดก่อนเวลาที่เราได้คิวอยู่บ่อยครั้ง ส่วนเวลาของร้านจะเปิดตั้งแต่ 11:00-21:00
- ร้าน Sekai no Yamachan Honten ร้านไก่ทอดอันดับหนึ่ง ที่ใครนึกอยากกิน Tebasaki ก็จะต้องนึกถึงที่นี่เป็นที่แรก จนคนญี่ปุ่นเรียกกันติดปากว่าร้าน ยามะจัง และ ยังถือว่าเป็นร้านไก่ทอดแบบเทบะซากิที่ใหญ่เป็นอันดับ 1 ของญี่ปุ่น ก็ทำให้หาได้ไม่ยากแถมยังโดดเด่นมากับ มาสคอด มนุษย์ไก่ ที่จะเรียกรอยยิ้มให้กับแขกผู้มาเยือนได้ทุกครั้ง โดยที่มากับโซลแกนที่เขียนอยู่บนธงที่มือขวาว่า “มาโบโรชิ โนะ เทบะซากิ” หรือ ที่แปลว่า เทบะซากิในตำนานนั่นเอง พร้อมกับมือซ้ายชู 2 นิ้ว มอบพลังให้กับทุกคนอีกด้วย
- ส่วนเมนูที่มาแล้วต้องสั่งเลย จะเป็นเมนู ปีกไก่ยามะจังรสเด็ด ที่จะให้ปีกไก่ทอดมาทั้งหมด 5 ชิ้น พร้อมปรุงรสด้วยซอสและผงสูตรพิเศษของทางร้านในราคา 450 เยน เท่านั้น สำหรับเวลาทำการ ในวันเสาร์ถึงจันทร์ ร้านจะเปิดตั้งแต่เวลา 12:00-23:00 ส่วนวันอังคารถึงวันศุกร์ จะเปิดเวลา 16:00-23:00 และ ไม่มีวันหยุด
- ร้าน Ebidote ร้าน Ebe Fly ยักษ์แบบฉบับนาโกย่า ที่เมื่อเข้าไปในร้านเราจะเห็นกับกุ้งชุปแป้งทอดยักษ์ที่แขวนเป็นป้ายร้าน ซึ่งทางร้านจะมีเมนูชุบแป้งทอดให้เลือกทานได้อย่างจุใจ ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบอะไรก็สามารถหาทานกันได้ที่นี่
- แต่เมนูแนะนำของทางร้านเลยก็จะเป็น เอบิโดเตะ ที่มีขนาด ใหญ่และยาวเท่าไม้บรรทัด ที่เสิร์ฟมาแบบยาวล้นจานกันเลย ส่วนราคาก็จะอยู่ที่จากละ 1,280 เยน โดยจะให้มาพร้อมกับซอสสูตรพิเศษของทางร้านที่มีรสชาติเฉพาะตัว
- ร้าน Senju Original สำหรับใครที่อยากทานเทนมูสุที่เป็นแบบฉบับออริจินอลประจำเมืองแล้วล่ะก็ต้องมาที่ร้านนี้เลย ที่จะมีทั้งเครื่องดื่มและอาหารที่เป็นกับแกล้มสไตล์ นาโกย่า อีกมากมายมารอบรับลูกค้าที่มาใช้บริการ ส่วนราคาของเทนมูสุนั้นก็จะขายอยู่ที่ชุดละ 5 ลูก 756 เยน นอกจากนี้ทางร้านยังมีเมนู Sushi สุดพรีเมี่ยมอีกมากมายมาให้เลือกทาน โดยร้านจะเปิดทุกวันตั้งแต่ 10:00-22:00
สรุป
สำหรับเมืองนาโกย่าก็จัดได้ว่าเป็นเมืองที่คนชอบกินชอบเที่ยวอีกหนึ่งเมืองไม่ควรพลาดเลย เพราะนอกจากจะเต็มไปด้วยเมนูพื้นเมืองมากมาย ร้านที่ให้บริการเองบางร้านก็เป็นจุดเริ่มต้นของเมนูชนิดนั้น ๆ ด้วย อย่างเช่นร้านต่าง ๆ ในบทความ 7 ร้านอาหารรสเด็ดจากเมือง Nagoya ที่เป็นขวัญใจของชาวเมือง และ เหล่านักท่องเที่ยว เรื่องนี้ ที่ในบางร้านมีประวัติศาสตร์อยู่คู่เมืองนาโกย่ามาอย่างยาวนาน ส่วนในครั้งหน้าจะเป็นเกี่ยวกับอาหารญี่ปุ่นแบบไหน โปรดติดตามกันด้วยนะครับ bluewolf-japan