สำหรับวันนี้ยังคงอยู่ในโหมดของ Matcha Lover เช่นเคย แต่คราวนี้เราจะพาออกไปนอกเมืองหลวงกันบ้าง โดยเราจะไปกันที่เกียวโตกัน เพราะที่นี่เองก็ขึ้นชื่อเรื่องของชาเขียวไม่แพ้ที่ไหนในญี่ปุ่นเช่นกัน สำหรับบทความ 8 ร้านชาเขียวแสนอร่อยของจังหวัดเกียวโต ในบรรยากาศร้านสุดคลาสสิคที่นั่งได้ทั้งวัน เรื่องนี้ เราก็จะพาทุกคนไปตามล่าหาชาเขียวอร่อย ๆ ในจังหวัดเกียวโตกัน เตรียมจดชื่อร้านกันไว้ได้เลย
คืออะไร
ร้าน Nakamura Tokichi Honten
มาเปิดรับวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอีกนิดที่ร้าน Nakamura Tokichi Honten อีกหนึ่ง ร้านชาเขียวเกียวโต ที่มีความโด่งดังในเรื่องของมัทฉะมาตั้งแต่เปิดร้านครั้งแรก ตัวร้านมีความโบราณและเก่าแก่นิด ๆ ทั้งภายในยังอัดแน่นไปด้วยบรรยากาศของความเป็นวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่ดูน่ารักอบอุ่น และน่าเรียนรู้เป็นที่สุด เมนูสุดแสนจะน่ากินนี้มีส่วนผสมของความเป็นขนมญี่ปุ่นโบราณที่ชาวญี่ปุ่นในปัจจุบันยังนิยมทานกันอยู่ แต่สำหรับที่นี่เสิร์ฟมาในกระบอกไม้ไผ่สไตล์ย้อนยุคสุดเก๋ วาราบิโมจินั้นมีรสชาติของชาเขียวแบบเต็ม ๆ พร้อมทั้งขนมญี่ปุ่นที่ดูแล้วแปลกตาแต่ไม่แปลกลิ้นแน่นอนสำหรับเหล่าคนรักชาเขียว ก่อนกลับถ้าได้เดินผ่านที่โซนของฝาก รับรองว่าจะต้องอยากหยิบสอยติดมือกลับบ้านไปอย่างแน่นอน ถ้าเห็นชิ้นไหนน่ากินแต่ไม่แน่ใจก็ลองสอบถามกับพนักงานได้เลย
ที่อยู่ Yoshino-cho, Yoshino, Nara
วิธีเดินทาง นั่งรถไฟ JR สาย Nara Line มาลงสถานี Uji แล้วเดินอีก 3 นาที
เวลาทำการ 11.00-18.00 น.
ราคา ประมาณ 1,000 เยน
โทรศัพท์ 0774-22-7800
ร้าน Saganoyu
มองจากภายนอก ที่นี่คงดูเหมือนบ้านของใครสักคนที่บรรยากาศเป็นมิตรรอต้อนรับ และเมื่อชะเง้อคอมองเข้าไปก็จะพบว่าที่นี่คือสวรรค์ของคนรัก ชาเขียวมัทฉะ นั่นเอง แม้จะเก่าแก่และโบราณแต่เราต้องไม่ทิ้งความเป็นฮิปสเตอร์ที่หอบมาจากเมืองไทยแบบเต็มกระเป๋า และบรรยากาศของ ร้านชาเขียวเกียวโต แห่งนี้ก็ตอบโจทย์แบบที่สุดของที่สุด ไม่เชื่อก็ลองดูภาพสิ ความเป็นฮิปสเตอร์นั้นแน่นอนว่าต้องมาคู่กับแพนเค้กที่กินง่าย ทำง่าย แต่อร่อยแบบยกกำลัง แต่ด้วยความที่เป็นเจ้าบ้านแห่ง ชาเขียวมัทฉะ ที่ร้านก็ไม่น้อยหน้าจัดเสิร์ฟเมนูแพนเค้กหอมนุ่มหวานอร่อยคู่มากับซอสชาเขียวเข้มข้น พร้อมด้วยท็อปปิ้งถั่วแดงด้านบน แต่เดี๋ยวก่อน เพราะแค่แพนเค้กอย่างเดียวนั้นคงไม่พอ แนะนำให้สั่งไอศกรีมชาเขียวและชาเขียวร้อนที่กินคู่กันแล้วต้องร้องว้าวเพราะความเข้ากันของความร้อนและความเย็นจากทั้งสองเมนูนี้นั้นเป็นไปได้ดีแบบสุด ๆ กินแล้วให้ความรู้สึกราวกับดื่มสมูทตี้ชาเขียวแบบไร้น้ำแข็ง ไม่ไปไม่ได้แล้ว
ที่อยู่ 4-3 Sagatenryuji, Imahoricho, Ukyo-ku, Kyoto, Kyoto
วิธีเดินทาง นั่งรถไฟ JR สาย San-In Line มาลงสถานี Saga-Arashiyama แล้วเดินอีก 2 นาที
เวลาทำการ 11.0-19.30 น.
ราคา ประมาณ 2,000 เยน
โทรศัพท์ 075-882-8985
ร้าน Yukinoshita
เมื่อเดินตามกลิ่นหอมของ ชาเขียวมัทฉะ จะพบกับบริเวณชั้น 2 ของร้าน Yukinoshita ที่มีความน่ารักสไตล์พื้นบ้านแบบญี่ปุ่น เฟอร์นิเจอร์น่าหลงใหลที่แสดงออกถึงวัฒนธรรมได้อย่างชัดเจนนั้นถูกจัดวางไว้อย่างเรียบง่าย หากแต่มีเสน่ห์อันท่วมท้น อาวุธสำหรับการกินวางพร้อมรอเราอยู่ ฮอตเค้กชิ้นใหญ่โตที่ได้รับอิทธิพลจากสีเขียวของชาเขียวไปแบบเต็ม ๆ จนหน้าตาเขียวสดสวยน่ากินชิ้นนี้เห็นแล้วรู้สึกได้ว่าต้องอิ่มท้อง ทั้งยังได้ความอร่อยแน่นอน ยิ่งได้ผ่าดูด้านในด้วยแล้วยิ่งน้ำลายไหลเพราะสอดไส้อีกทีด้วยซอสชาเขียวที่ไม่ได้เข้มแค่สีสันแต่รสชาติก็เข้มข้นโดนใจเช่นกัน แต่ถ้าอากาศร้อนก็ต้องสั่ง Kakigori แสนอร่อยที่นอกจากจะหน้าตาดีแล้วก็มีรสชาติดีด้วยนะ ขอบอกว่าสั่งมาทั้ง 2 อย่างแล้วแบ่งกันกินดูสิ รับรองว่าเวิร์ค ถ้าผ่านมาแถวสถานีรถไฟ Karasumaoike ต้องไม่ลืมที่จะแวะมานะ
ที่อยู่ 145-1 Nakagyo-ku, Kyoto, Kyoto
วิธีเดินทาง นั่งรถไฟใต้ดินสาย Tozai Line มาลงสถานี Karasumaoike แล้วเดินอีก 9 นาที
เวลาทำการ 10.00-18.00 น.
ราคา ประมาณ 2,000 เยน
โทรศัพท์ 075-201-7318
ร้าน Kyo Hayashiya Sanjoten
ร้านหน้าตาธรรมดา ๆ แบบนี้ที่มักจะซ่อนของดีเอาไว้ และร้าน Kyo Hayashiya Sanjoten แห่งนี้ก็มี ชาเขียวมัทฉะ ของดีอยู่จริง ๆ ด้วยล่ะ แต่เค้าไม่ได้ซ่อนไว้หรอกนะ เพราะถ้าใครมาเค้าก็พร้อมเสิร์ฟ ไม่ใช่แค่หน้าตาภายนอกเท่านั้นที่เรียบง่ายและธรรมดาแต่การตกแต่งด้านในก็เรียบง่ายเช่นกัน จะบอกว่าเป็นเอกลักษณ์ของร้านก็คงไม่ผิด น้ำแข็งไสชาเขียว Kakigori หน้าตาเข้มที่เห็นเกล็ดหิมะแล้วใจละลาย เกล็ดเย็น ๆ น่ากินที่เติมเต็มความสดชื่นให้กับวันท่องเที่ยวสบาย ๆ ของเราได้ สั่ง Zenzai ถ้วยโตที่อัดแน่นไปด้วยชิราทามะโมจิ ถั่วแดง วุ้นชาเขียว และผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นอื่น ๆ มากินก็ชื่นใจไม่แพ้กัน หรือสายหวานจะสั่งเป็นเค้กชาเขียวเนื้อเนียนนุ่มที่รสชาติเข้มข้นมากินก็น่าจะดีเชียวล่ะ
ที่อยู่ 105 Nakajimacho, Nakagyo-ku, Kyoto, Kyoto
วิธีเดินทาง นั่งรถไฟสาย Tozai Line มาลงสถานี Kyotokuyakusho-Mae แล้วเดินอีก 6 นาที
เวลาทำการ 11.30-21.30 น.
ราคา ประมาณ 1,000 เยน
โทรศัพท์ 075-231-3198
ร้าน Gion Niti
ถ้าอยากกินขนมหวานจาก ชาเขียวมัทฉะ มากหน้าหลายตาในบรรยากาศร้านหรู ๆ ต้องมาที่นี่ เลย ภายนอกไม่ได้หรูหราแต่ต้องขอเชิญให้เดินเข้ามาด้านในก่อน เห็นมั้ยล่ะบอกแล้วว่าร้านด้านในของเค้าสวยหรูจริง ๆ น่านั่งชวนฝันมาก ๆ เมนู Kakigori ชาเขียว ที่น่ากินกำลังรอให้เพื่อน ๆ ไปลิ้มรสกันอยู่ สัมผัสกับความเย็นและรสชาติเข้มข้นไปพร้อม ๆ กัน รับรองว่าฟิน
ที่อยู่ 570-8 Gionmachi, Minamigawa, Higashiyama-ku, Kyoto, Kyoto
วิธีเดินทาง นั่งรถไฟ JR สาย Keihan Line มาลงสถานี Gion-Shijo แล้วเดินอีก 6 นาที
เวลาทำการ กรกฎาคม-กันยายน : 10.00-17.45 น. ตุลาคม-มิถุนายน : 11.00-18.00 น.
ราคา ประมาณ 2,000 เยน
โทรศัพท์ 075-525-7128
ร้าน Gion Komori
บ้านเก่าแสนสวยทรงเสน่ห์แห่งเกียวโตหลังนี้ได้ถูกปรับเปลี่ยนให้กลายเป็น ร้านชาเขียวเกียวโต ที่แสนอร่อย ใครที่เดินผ่านไปผ่านที่ร้านแห่งนี้ ขอแนะนำให้อย่าปล่อยผ่าน โปรดพุ่งตัวแวะเข้าไปโดยด่วน นั่งพักกายสบายใจกันได้ที่นี่ ร้านซึ่งไม่มีบรรยากาศของธุรกิจให้รู้สึกรำคาญใจ นั่งเพลิน ๆ กินชาเขียวอร่อย ๆ ไปจนลืมเวลา แต่ว่าต้องอย่าลืมจ่ายเงินเสียล่ะ ไอศกรีมเย็น ๆ ชื่นใจ ต่อให้อากาศจะหนาวแค่ไหนก็คงจะยังอยากกินเพราะแค่จินตนาการถึงรสชาติหอมหวานนุ่มละมุนที่มีกลิ่นชาเขียวแบบต้นตำรับแท้ก็แทบจะอดใจไม่ไหวแล้ว วาราบิโมจิคลุกฝุ่น แต่ถ้าเป็นฝุ่นชาเขียวเราขอยอมแต่โดยดี เพราะเห็นแล้วมันช่างยั่วน้ำลายอยากจะตักเข้าปากให้คลายหิวสักชิ้นสองชิ้นจนกว่าจะพอใจเสียจริงเลย ได้จิบชาเขียวพร้อมกินขนมแสนอร่อยภายใต้บรรยากาศสบาย ๆ แบบนี้ทำเอาไม่อยากจะลุกออกไปที่ไหนให้เหนื่อยกายอีกเลยนะเนี่ย โซนของฝากคนรักชาเขียวก็ดึงดูดล่อตาล่อใจให้เราต้องเสียเงิน แต่มาทั้งทีจะไม่ซื้อชาเขียวกลับไปก็คงจะเหมือนมาไม่ถึงใช่มั้ยล่ะคะ เพราะฉะนั้นคว้าที่ถูกใจมาสักหนึ่งอย่างแล้วกลับไปอวดคนที่บ้านด้วยนะ อ้าว ! ไม่ใช่สิ ต้องซื้อไปฝากคนที่บ้านด้วยนะ
ที่อยู่ Kyoto Higashiyama-ku, Kyoto Gion Shinbashi Motoyoshi-cho, 61
วิธีเดินทาง นั่งรถไฟ JR สาย Keihan Line มาลงสถานี Gion-Shijo แล้วเดินอีก 5 นาที
เวลาทำการ 11.00-20.00 น.
ราคา ประมาณ 2,000 เยน
โทรศัพท์ 075-561-0504
ร้าน Tsujiri
อีกหนึ่งร้านหน้าตาธรรมดาที่ดูไม่เหมือนผู้เชี่ยวชาญด้าน ชาเขียวมัทฉะ แห่งนี้บอกเลยว่ามีแต่ของดีของอร่อย ภายในร้านมีขนาดเล็กกะทัดรัดที่แสนอบอุ่น เหมาะสำหรับใครอยากมาฝากท้องพร้อมได้รับบรรยากาศสบาย ๆ ซอฟต์ครีมชาเขียวในโคนวาฟเฟิลที่มีท็อปปิ้งแน่น ๆ แบบนี้ทนไม่ไหวหรอก พาร์เฟ่ต์จิ๋วขนาดพอดีท้องที่หน้าตาชวนอร่อยสุด ๆ นั้นอยู่ในตู้สวยใส อยากกินชิ้นไหนก็ชี้ได้เลย ขนมญี่ปุ่นแท้ ๆ กินคู่กับชาเขียวที่นี่ก็มี เป็นความหอมหวานละมุนที่สัมผัสได้ที่นี่เท่านั้น พูดแล้วไม่อยากให้พลาดเลย
ที่อยู่ 215 Kyoto City, Dongshan District, Shijo
วิธีเดินทาง นั่งรถไฟ JR สาย Keihan Line มาลงสถานี Gion-Shijo แล้วเดินอีก 1 นาที
เวลาทำการ 11.00-20.00 น.
ราคา ประมาณ 1,000 เยน
โทรศัพท์ 075-551-0220
ร้าน Itohkyuemon uji honten
ร้าน Itohkyuemon uji honten เป็น ร้านชาเขียวเกียวโต ที่ตั้งอยู่ใกล้กับวัดดังแห่งเกียวทั้ง 3 แห่ง ทำให้บรรยากาศของที่นี่มีความอบอุ่น เรียบร้อย และเงียบสงบ การตกแต่งก็เป็นไปอย่างเรียบง่ายไม่หวือหวา เชิญชวนให้ผู้ต้องการความสงบได้เข้ามาพักผ่อนหย่อนใจ ปล่อยอารมณ์พร้อมชื่นชมธรรมชาติที่รายล้อมรอบกาย ความโด่งดังของทางร้านในเรื่อง ชาเขียวมัทฉะ นั้นเรียกได้ว่าไม่น้อยหน้าใครเลยจริง ๆ ทั้งยังสามารถรังสรรค์เมนูอาหารที่ทำจากชาเขียวได้ออกมาหน้าตาดีชวนหิว อย่าง Kakigori ของที่นี่ก็ใหญ่โตโออ่าน่ากินสุด ๆ หรือจะเลือกสั่งเป็นพาร์เฟต์ที่ท็อปปิ้งนั้นอัดแน่นไปด้วยชาเขียว และขนมโบราณอย่างวาราบิโมจิเคี้ยวหนึบชวนอร่อย ส่วนสาวกของนุ่มนิ่มอย่างพุดดิ้งต้องยอมแพ้ให้กับความยั่วยวนอันเด้งดึ๋งของพุดดิ้งชาเขียวที่หอมอร่อยละมุนลิ้น แต่ถ้าอยากสัมผัสความเป็นเกียวโตก็ต้องลองขนมหวานตามประเพณีอย่าง Zenzai ถ้วยนี้ หรือชาเขียวที่เราจะได้เห็นวิธีการชงชาที่แสนจะมีพิธีรีตอง ส่วนเมนูอื่นนั้นก็น่ากินไม่แพ้กัน บอกแค่เท่านี้ก็คงจะรีบมาแล้วล่ะ ไม่ต้องรอจนอธิบายครบทุกเมนูเลย
ที่อยู่ 19-3 AraMaki, Todo, Uji, Kyoto
วิธีเดินทาง นั่งรถไฟ JR สาย Keihan-Uji Line มาลงสถานี Uji แล้วเดินอีก 7 นาที
เวลาทำการ 10.00-18.30 น.
ราคา ประมาณ 1,000 เยน
โทรศัพท์ 0774-23-3955
สรุป
แล้วก็จบลงไปเป็นที่เรียบร้อย สำหรับบทความ 8 ร้านชาเขียวแสนอร่อยของจังหวัดเกียวโต ในบรรยากาศร้านสุดคลาสสิคที่นั่งได้ทั้งวัน เรื่องนี้ เป็นยังไงกันบ้างครับเห็นแล้วเกิดปฏิกิริยาทางเคมีในร่างกายบ้างรึป่าว จบบทความนี้อย่าลืมไปหาชาเขียวอร่อย ๆ ทานกันนะครับ และ เพื่อน ๆ คนไหนที่มีโอกาสไปเกียวโต ก็อย่าลืมไปลิ้มลองทั้ง 8 ร้านที่เรานำมาฝากกันด้วยนะครับ