หากถามว่าปลาชนิดไหนในประเทศญี่ปุ่น นิยมนำมาทานแบบสด ๆ ดิบ ๆ มากที่สุด ก็คงจะเป็นปลาทูน่าหรือปลามากุโระ ที่ได้รับความนิยมมาทานกันแบบดิบเป็นหลักมากกว่าแซลมอนเสียอีก ซึ่งปลาทูน่าอย่างที่ทราบกันดีว่ามีอยู่มากมายหลายสายพันธุ์ และ Hon Maguro หรือ Bluefin Tuna ว่ากันว่าคือราชาปลาดิบสายพันธุ์ที่ดีที่สุดจริงหรือไม่ ซึ่งก็ขอตอบกันตรงนี้เลยว่าจริงครับ เพราะ Hon Maguro คือ ปลาทูน่าที่ตัวใหญ่ ที่มีราคาในท้องตลาดที่สูงมาก ๆ ถึงขั้นว่าต้องประมูลแย่งกันเลยในราคาหลายล้านเยนกันเลย และ สาเหตุอะไรล่ะ ที่ทำให้ Hon Maguro เป็นที่ต้องการมากเพียงนี้
Hon Maguro คืออะไร
- Hon Maguro หรือ Bluefin Tuna คือ ปลาทูน่าสายพันธุ์ครีบน้ำเงิน เป็นปลาทูน่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุด โดยในช่วงโตเต็มวัยจะมีความยาวของลำตัวเฉลี่ยอยู่ที่ 2-3 เมตร กับน้ำหนักตัวที่มากถึง 100-200 กิโลกรัม ส่วน Bluefin Tuna ที่ใหญ่ที่สุดจากการบันทึกไว้ จะยาว 4.58 เมตร และ มีน้ำหนัก 684 กิโลกรัมกันเลย จึงทำให้ปลา Hon Maguro มีราคาเฉลี่ยที่สูงระดับ 1 ล้านเยนเลย แถม ไซด์พิเศษที่หายาก ๆ นั้น ก็ถึงขั้นที่ต้องประมูลเพื่อแย่งกันเป็นผู้ครอบครองเลย และ สาเหตุที่ทำให้ปลาชนิดนี้มีราคาที่สูงหลัก ๆ เลยก็คือ ความพรีเมี่ยมของเนื้อสัมผัสและรสชาติของปลาชนิดนี้นั้นมีแตกต่างกว่าเนื้อปลาทุกชนิดบนโลกใบนี้
- สัดส่วนที่นิยมของ Hon Maguro หลัก ๆ ก็จะเป็นส่วนท้องของปลาทูน่า ที่แยกออกมาได้มี 3 ส่วน ที่เราจะพบได้บ่อยตามร้าน Sushi ชั้นนำทั่วไป ดังนี้
- ส่วนแรกคือเนื้อส่วนกลางลำตัวจะเรียกว่า Akami จะเป็นส่วนที่มีเนื้อแดงมากที่สุด โดยที่มีไขมันแทรกน้อยหรือแทบจะไม่มีเลย เป็นชิ้นส่วนที่หาได้ง่ายและมีราคาไม่สูง มีรสสัมผัสคล้ายกับเนื้อวัวในรสชาติของปลาทูน่า
- ส่วนต่อมาคือเนื้อท้องส่วนหลังเรียกว่า Chutoro จะเป็นเนื้อที่มีไขมันแทรกขึ้นมาอีกหนึ่งระดับ มีเนื้อสัมผัสที่นุ่มละลายแบบพอได้เคี้ยว กับ รสชาติหวานละมุนแบบหาไม่ได้จากเนื้อปลาชนิดอื่น ๆ
- ส่วนสุดท้ายหรือเมนูพระเอกของปลาทูน่า นั่นก็คือเนื้อท้องส่วนหน้า หรือ Otoro เป็นส่วนที่มีไขมันแทรกมากที่สุด มีเนื้อสีชมพูลายหินอ่อน เป็นเนื้อส่วนที่อร่อยที่สุดของปลาทูน่า ให้รสสัมผัสที่นุ่มละลายแบบที่ไม่ต้องเคี้ยวได้เลย และ เป็นส่วนที่มีราคาสูงมาก ๆ
- นอกจากนี้ Hon Maguro หรือ Blue Fin Tuna ยังแบ่งออกไปอีก 3 สายพันธุ์ ได้แก่
- Northern Bluefin (Thunnus thynnus) ปลาจากแทบทะเลทิศเหนือที่มีขนาดตัวใหญ่ที่สุด
- Pacific Bluefin (Thunnus orientalis) เพชรสีดำแห่งท้องทะเล เป็นปลาทูน่าเลือดอุ่นที่คนญี่ปุ่นนิยมมากที่สุด โดยจะมีขนาดใหญ่เป็นลำดับที่ 2 จากปลาทูน่าทั้งหมด
- Southern Bluefin (Thunnus maccoyii) ปลาทูน่าจากทะเลทางทิศใต้ที่มีขนาดตัวเล็กที่สุดในกลุ่ม และ มีราคาและเกรดต่ำที่สุดในกลุ่ม Bluefin Tuna แต่ก็ยังเหนือกว่า Yellow Fin Tuna อยู่ดี
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ Hon Maguro
- เรื่องแรกก็คือประโยชน์ของ Hon Maguro อย่างแรกเลยขึ้นชื่อว่าปลาหลาย ๆ คนก็จะทราบกันดีอยู่แล้วว่าเป็นวัตถุดิบที่รวบรวมไปด้วยประโยชน์ทางโภชนาอยู่มากมาย ซึ่งปลาทูน่านี้เองก็เช่นกันที่จะเต็มไปด้วย วิตามินนานาชนิด , โอเมก้า 3 , ไอโอดีน และ ถึงแม้ว่าปลาชนิดนี้จะมีไขมันเยอะโดยเฉพาะในส่วน Otoro และ Chutoto แต่ไขมันดังกล่าวก็ล้วนแต่เป็นไขมันดีที่ไม่ส่งผลเสียต่อร่างกายอีกด้วย
- สำหรับใครที่ยังไม่ทราบว่าปลาชนิดไหนคือ ราชาแห่งปลาดิบทั้งหมด คำตอบก็คือปลา Hon Maguro นี่แหละ โดยเฉพาะเนื้อในส่วนของ Otoro ที่ถ้าใครเคยได้กินสักครั้งก็จะจดจำไปจนไม่รู้ลืมเลย เพราะเป็นเนื้อปลาที่มีรสสัมผัสนุ่มละลายที่ละลายมากกว่าเนื้อวากิว A5 เสียอีก แถมยังได้รสชาติที่หอมหวาน ชุ่มฉ่ำตลบอบอวนอยู่ในปาก และ ที่ประเทศญี่ปุ่นนี้เนื้อ Otoro ก็มีราคาที่สูงมาก ๆ ถึงขั้นที่ต้องเกิดการประมูลขึ้นในทุกครั้ง เมื่อมีวัตถุดิบชิ้นนี้เข้ามาในท้องตลาด แถมเนื้อส่วนอื่น ๆ ของปลา Hon Maguro ก็จะมีราคาต่อกิโลกรัม ที่ค่อนข้างสูงกว่าปลาทุกชนิดในประเทศญี่ปุ่น
- Hon Muguro ได้ถูกนำมาเป็นเมนูพระเอกของอาหารหลาย ๆ ประเภท ตั้งแต่ Sushi , Sashimi , Donburi ที่แต่ละร้านมักจะใช้วัตถุดิบชนิดนี้มาทำเป็นเมนูสุดยอดหรือเมนูที่แพงที่สุดของทางร้านอยู่เสมอ เพราะด้วยราคาที่สูงและตัววัตถุดิบเต็มไปด้วยคุณภาพที่มาในรสชาติสุดลึกซึ้ง
- แหล่งนำเข้าสำคัญของ Hon Maguro ในประเทศญี่ปุ่นหลัก ๆ ก็จะเป็นเมืองท่าทั่ว ๆ ไป แต่จุดที่โด่งดังและมีชื่อเสียงที่สุด จะเป็น 3 จังหวัด ดังนี้
- เมือง Nagasaki คือ เกาะตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่นที่เป็นเมืองท่าชื่อดังของเกาะคิวซู
- จังหวัด Kochi เป็นเมืองที่มีแนวชายฝั่งเพียงไม่กี่เมืองของประเทศญี่ปุ่น และ เป็นเขตทะเลที่มีความอุดมสมบูรณ์มาก ๆ อีกที่หนึ่ง
- เมือง Okinawa ดินแดนแห่งวัตถุดิบ ที่เป็นสวรรค์ของคนรักทะเล และ ยังเป็นเมืองท่าอันดับต้น ๆ ที่นำเข้าปลาทูน่าด้วยเช่นกัน
- และ นอกจากที่ประเทศญี่ปุ่น แหล่งนำเข้าขึ้นชื่อของ Hon Maguro หรือ Bluefin Tuna ก็จะมี ที่รัสเซีย กับ สเปน ด้วยครับ
- ที่ญี่ปุ่นมีตลาดที่ขึ้นชื่อเรื่องการจำหน่ายปลาทูน่าที่สุดของเมืองโตเกียว ที่ได้รวบรวมเหล่าปลาทูน่ามาไว้ที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งที่ ที่สามารถเรียกเสียงฮือฮาได้ทุกปี ด้วยการสร้างสถิติใหม่ของราคาปลาทูน่าได้เกือบทุกปี นั่นก็คือ ตลาดปลา Tsukiji ที่ได้เปิดทำการมายาวนานมากกว่า 80 ปี และ เมื่อในปี 2019 ที่ผ่านมาก็ได้สร้างสถิติโลกปลา Tuna ที่แพงที่สุดเอาไว้ โดยนำปลา Hon Maguro ไซด์ยักษ์น้ำหนัก 278 กิโลกรัมออกมาประมูล และ โดนทุบออกไปในราคา 333.6 ล้านเยน หรือ 3.1 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่ถ้าคิดเป็นเงินไทยก็อยู่ที่ตัวละ แค่ 98.61 ล้านบาท เท่านั้นเอง ส่วนผู้ที่ได้ไปก็เป็นร้าน Sushi Zanmai ของคุณ Kiyoshi Kimura ที่ได้รับฉายา Tuna King ซึ่งใครอยากลิ้มลองปลาทูน่าที่ดีที่สุดก็คงต้องไปที่นี่แล้ว เพราะร้านนี้เขาแทบจะชนะการประมูลไปในทุกปี ซึ่งใครที่มองว่าคนบ้าอะไรซื้อปลาเกือบ 100 ล้าน กี่ปีถึงต้องคืนทุน ถ้ามองในทางกลับกัน การที่ควักเงินจ่ายแล้วร้านนี้ได้รับฉายา Tuna King ไปจนคนทั่วโลกต้องมากินกันที่ร้านนี้ คงบอกว่าไม่คุ้มก็คงไม่ได้แล้วล่ะ เพราะหลังจากสถิตินี้ในปัจจุบันก็ยังไม่มีคนทุบลงไปเลย แต่ถึงยังไงนั่นก็ไม่ใช่ราคาเฉลี่ยของปลาทูน่าชนิดนี้นะครับ เพราะผู้ที่ชนะการประมูลเองยังกล่าวเอาไว้ว่าในครั้งนั้น ตัวเขาได้จัดหนักไปหน่อย ทั้งที่ตอนแรกคาดการณ์เอาไว้ว่าปลาทูน่าตัวนี้จะมีราคาอยู่ที่ 50-60 ล้านเยนเท่านั้น ส่วนราคาและขนาดที่พบเจอกันได้ปกติ ก็จะอยู่ในราคา 1-2 ล้านเย็น ส่วนไซด์พิเศษก็จะมีการประมูลอยู่ที่ 10-20 ล้านเยน ในปัจจุบัน จะมีเพียงส่วนน้อยที่เป็นไซด์พิเศษเท่านั้น ที่ราคาจะไปถึงหลัก 10 ล้านบาท
สรุป
ก็สมกับเป็นที่สุดของเนื้อปลาจริง ๆ โดยเฉพาะการทานสดที่ไม่สามารถหาใครมาเทียบได้จริง ๆ สำหรับ Hon Maguro และ สุดท้ายนี้ก่อนจากกัน หวังว่าผู้ชมทุกคนจะสนุกไปกับ บทความ Hon Maguro หรือ Bluefin Tuna ว่ากันว่าคือราชาปลาดิบสายพันธุ์ที่ดีที่สุดจริงหรือไม่ ของเราในครั้งนี้นะครับ ส่วนในครั้งหน้าจะเป็นบทความเรื่องอะไรนั้น โปรดติดตามกันด้วยนะครับ สวัสดีครับ bluewolf-japan
เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> สล็อตเว็บแท้