คนญี่ปุ่นเป็นนักคิดเเละนักประดิดประดอย โดยเฉพาะการปรุงอาหารที่มีความพิถีพิถันเพื่อให้อาหารทุกจานออกมาตรงตามมาตรฐาน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้นักท่องเที่ยวที่ไปเยือนประเทศญี่ปุ่นมีความติดอกติดใจในรสชาติของอาหารญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก ซึ่งหนึ่งในอาหารญี่ปุ่นที่ขายดีเเละโด่งดังเป็นอย่างมากก็คือ “ราเมน” โดยราเมนนั้นมีความสำคัญเเละเป็นอาหารที่อยู่คู่กับประวัติศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน
ราเมน บะหมี่ในเเบบฉบับชาวญี่ปุ่น
“ราเมน” คือซุปที่มีลักษณะคล้ายก๋วยเตี๋ยว โดยมีส่วนประกอบหลัก ๆ อยู่สามส่วนคือ เส้นบะหมี่ทำมาจากข้าวสาลีที่นวดและดึงด้วยมือ น้ำซุปราเมนที่คนญี่ปุ่นมักจะใช้เนื้อปลา เนื้อหมู กระดูกไก่มาปรุงรสด้วยซีอิ๊วของญี่ปุ่น และส่วนที่สามคือเครื่องเคียงมักจะมีเนื้อหมูชาชู ต้นหอม สาหร่าย ข้าวโพดและหน่อไม้ (เมนมะ) ลูกชิ้นปลานารุโตะมากิ
ประวัติความเป็นมาของราเมน อาหารที่มีวิวัฒนาการมากที่สุด
ตามประวัติศาสตร์ที่ยาวนานของราเมน อาหารญี่ปุ่นชนิดนี้มีต้นกำเนิดมาจากชาวจีน เเละคำว่าราเมนก็มาจากคำว่าลาเมี่ยน ซึ่งเป็นชื่อเรียกของบะหมี่ทำมือจากเเป้งสาลีของจีน โดยร้านราเมนร้านเเรกถือกำเนิดขึ้นในปี 1910 ที่ย่านอาซากุสะในเมืองโตเกียว ต่อมาในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองประเทศญี่ปุ่นขาดเเคลนข้าวเป็นอย่างมาก เเป้งสาลีที่ใช้ทำราเมนจึงเป็นของล้ำค่าที่ผู้คนต้องการ ทำให้ร้านราเมนต่าง ๆ ต้องทยอยปิดจนเกือบจะหมดทุกร้าน หลังจากสงครามโลกสิ้นสุดราเมนจึงกลับมาโด่งดังอีกครั้ง ต่อมาบริษัทนิชชินมีการผลิตราเมนบะหมี่แบบถ้วยขึ้นครั้งแรกซึ่งถือกำเนิดขึ้นในปี 1958 เป็นราเมนที่เก็บได้นานเเละทานง่ายเพียงแค่เติมน้ำร้อน ถือว่าเป็นความภาคภูมิใจของชาวญี่ปุ่นในยุคนั้นเป็นอย่างมาก ราเมนจึงเป็นอาหารที่เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์เเละวัฒนธรรมของญี่ปุ่น จนกระทั่งมีการก่อตั้งพิพิพิธภัณฑ์ราเมนเเห่งเเรกขึ้นที่เมือง Shin-Yokohama เพื่อรวบรวมสูตรของร้านราเมนที่เก่าเเก่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น
ความหลากหลายเเละประเภทของราเมน
โดยส่วนมากเส้นและเครื่องเคียงของราเมนจะคล้ายคลึงกันเกือบทุกร้าน แต่สิ่งที่แตกต่างกันคือความอร่อยของน้ำซุปสูตรต่าง ๆ ซึ่งในวันนี้เราได้นำมาประเภทของน้ำซุปราเมนที่ได้รับความนิยมมาทั้งหมด 6 ประเภทด้วยกัน
1.โชยุ (Shoyu)
น้ำซุปพื้นฐานที่คนนิยมเป็นอย่างมาก น้ำซุปชนิดนี้ทำมาจากปลาโอแห้ง กระดูกหมู สาหร่ายคอมบุ ปรุงรสด้วยซอสถั่วเหลืองหรือที่เรียกว่าโชยุ แต่ละร้านก็จะมีสูตรการปรุงรสที่แตกต่างกันออกไป บางร้านถึงขั้นหมักซอสโชยุขึ้นมาเองเพื่อให้ได้รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
2.ชิโอะ (Shio)
ชิโอะคือน้ำซุปที่ปรุงรสด้วยเกลือเป็นหลัก เป็นน้ำซุปราเมนที่อยู่คู่กับคนญี่ปุ่นมาตั้งแต่ยุคริเริ่ม เป็นน้ำซุปราเมนสูตรที่สามารถชูรสชาติของวัตถุดิบได้อย่างเต็มที่ โดยที่รสชาติของน้ำซุปชนิดนี้จะไม่ไปกลบรสชาติของวัตถุดิบและเครื่องเคียงต่าง ๆ ของราเมน
3.มิโซะ (Miso)
น้ำซุปประเภทนี้จะมีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์จากวัตถุดิบหลักอย่างเต้าเจี้ยว เนื้อสัมผัสค่อนข้างข้นและรสชาติของซุปชนิดนี้จะเข้มข้นที่สุดในบรรดาซุปทุกประเภท โดยน้ำซุปมิโซะของแต่ละร้านจะมีรสชาติที่แตกต่างกัน เกิดจากสูตรและสัดส่วนของมิโซะที่ใส่ลงไปนั่นเองล่ะค่ะ
4.ทงคตสึ (Tonkotsu)
น้ำซุปทงคตสึมีต้นกำเนิดมาจากแถบฮอกไกโดทางตอนเหนือของญี่ปุ่น โดยทำมาจากน้ำซุปกระดูกหมู มีรสชาติที่หอมหวานและกลมกล่อม น้ำซุปทงคตสึจะมีลักษณะสีขาวขุ่นรสชาติกลาง ๆ นิยมทานคู่กับต้นหอมญี่ปุ่นซอยแบบบางและหมูชาชู
5.เกียวไค (Gyokai)
เกียวไคเป็นน้ำซุปที่ทำมาจากซีฟู้ดและสาหร่ายทะเล มีรสชาติเข้มข้นหอมกลิ่นสาหร่าย มีทั้งแบบใสและแบบข้น โดยน้ำซุปเกียวไคมักหาทานได้ตามเมืองที่ติดทะเลทางตอนใต้ของญี่ปุ่น
ไม่ใช่เพียงเเค่ชาวต่างชาติเท่านั้นที่ชื่นชอบราเมน เเต่คนญี่ปุ่นเองก็นิยมทานราเมนกันเป็นอย่างมาก ทำให้ร้านราเมนมีมากมายหลายพันร้าน เรียกได้ว่าอยู่ในทุกพื้นที่ของประเทศญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ โดยราเมนในเเต่ละภูมิภาคก็จะมีเอกลักษณ์ที่มีความโดดเด่นเป็นของตัวเอง เนื่องจากวัตถุดิบที่มีในเเต่ละท้องถิ่นนั้นเเตกต่างกัน ดังนั้นหากคุณมีโอกาสเดินทางไปท่องเที่ยวที่เมืองไหนในญี่ปุ่น อย่าลืมลิ้มลองราเมนท้องถิ่นของที่นั่นดูสักครั้งนะคะ bluewolf-japan
เครดิตภาพ หน้าปก https://pixabay.com
Credit ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ