ถ้าพูดถึงอาหารญี่ปุ่น ก็คงจะเป็นที่ชื่นชอบของใครหลาย ๆ คนมาก ๆ ในปัจจุบัน เพราะรสชาติค่อนข้างอร่อย วัตถุดิบมีคุณภาพ แถมยังมีประโยชน์ต่อร่างกายอีก และ ตัวข้าวญี่ปุ่นเองก็เป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่โดดเด่น และ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาก ๆ จนยากที่หลาย ๆ ประเทศจะเลียนแบบ ซึ่งในบทความ เคล็ดลับวิธีการเลือกข้าวญี่ปุ่นให้ถูกต้องตามแบบฉบับของคนญี่ปุ่น และ สิ่งที่ควรต้องรู้เกี่ยวกับข้าวญี่ปุ่น เรื่องนี้ เราก็ได้รวบรวมสิ่งที่ควรต้องรู้เกี่ยวกับข้าวญี่ปุ่นในแต่ละประเภทมาฝากกัน พร้อมพาไปดูวิธีเลือกและวิธีหุงข้าวญี่ปุ่นด้วยเลยในครั้งนี้ ส่วนจะมีสิ่งที่น่าสนใจอย่างไรบ้างนั้นเราไปรับชมพร้อม ๆ กันเลยครับ
ข้าวญี่ปุ่น มีกี่ชนิด
- ซึ่งข้อแรกที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อข้าวญี่ปุ่นคือสายพันธุ์ข้าวนั่นเองค่ะ เพราะข้าวแต่ละสายพันธุ์ก็จะมีจุดเด่นที่ไม่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นรสชาติหวานหอมของข้าว ความหนึบหนับ ความร่วน และความนุ่มมากน้อยต่างกันไป โดยสายพันธุ์ที่เป็นที่โปรดปรานของชาวญี่ปุ่น และสามารถหาซื้อในไทยได้ไม่ยาก มีดังนี้
- ข้าวสายพันธุ์โคชิฮิคาริ สำหรับทานกับอาหารทั่วไป ถ้าหากคุณต้องการหุงทานคู่กับข้าวทั่วไป อาจเลือกพันธุ์โคชิฮิคาริที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เพราะมีรสหวานหอมเฉพาะตัว ทานคู่กับอาหารได้หลากหลายประเภททั้งสไตล์ญี่ปุ่นและตะวันตก หรืออาจเลือกพันธุ์ฮิโตเมโบเระหรืออาคิตะโคะมาจิ ที่มีความเหนียวนุ่ม กลิ่นหอม เมล็ดสวยงาม สามารถนำไปประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู ทั้งข้าวหน้าต่าง ๆ หรือข้าวอบได้
- ข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์ซาซานิชิกิ สำหรับทำซูชิหรือข้าวปั้น สำหรับใครที่ชื่นชอบการทานซูชิ ข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์ซาซานิชิกิ (Sasanishiki) น่าจะตอบโจทย์ความต้องการได้เป็นอย่างดีค่ะ เพราะมีลักษณะที่ไม่เหนียวหนึบมากจนเกินไป รวมถึงมีความร่วนกว่าเมื่อเทียบกับสายพันธุ์อื่น ๆ จึงเหมาะสำหรับใช้ทำซูชิ โรล หรือข้าวปั้น ซึ่งข้าวซาซานิชิกิเคยได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ ในหมู่ชาวญี่ปุ่นเช่นกัน แต่เมื่อเวลาผ่านไป ประกอบกับเพาะปลูกได้ค่อนข้างยาก จึงทำให้หาทานได้ยากขึ้นในปัจจุบัน
- ข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์ยูเมะพิริกะ ข้าวระดับไฮเอนด์จากฮอกไกโด ข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์ยูเมะพิริกะ (Yumepirika) จากฮอกไกโด ซึ่งมีรสหวานและเข้มข้น เหนียวและนุ่มเป็นพิเศษ นิยมทานเป็นข้าวสวยคู่กับอาหารชนิดอื่น โดยเคล็ดลับของข้าวพันธุ์นี้คือ เป็นข้าวที่ได้รับการปรับสายพันธุ์ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง ทำให้รสชาติกลมกล่อมกว่า อีกทั้งยังได้รับการยอมรับอย่างมากจากสายการบิน ANA หรือ All Nippon Airways ซึ่งเป็นสายการบินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ก็ได้เลือกใช้ข้าวสายพันธุ์นี้ในการเสิร์ฟผู้โดยสารชั้น First Class ด้วย
วิธีการเลือกข้าวญี่ปุ่น
- ถ้าคุณเป็นคนที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่น และอยากจะลองลงมือทำเองดูสักครั้ง ข้าวญี่ปุ่นถือเป็นวัตถุดิบที่ขาดไม่ได้เลยนะคะ แต่หากยังไม่แน่ใจว่าควรจะเลือกข้าวญี่ปุ่นแบบไหนจึงจะหอมอร่อยตรงใจ เราก็มีวิธีการง่าย ๆ มาฝาก จะมีอะไรบ้าง ลองไปดูกันเลย
- เลือกข้าวญี่ปุ่นที่ไม่ต้องซาว ในปัจจุบัน ข้าวญี่ปุ่นได้รับการพัฒนาสายพันธุ์อย่างต่อเนื่องจนทำให้เกิดข้าวสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งข้าวสายพันธุ์นี้มีความพิเศษ เนื่องจากเป็นข้าวที่ผ่านการสี กำจัดรำข้าวและเปลือกออกอย่างสะอาดกว่าสายพันธุ์อื่น คุณไม่จำเป็นต้องซาวข้าวให้ยุ่งยาก ช่วยประหยัดเวลาในการหุงและลดขั้นตอนที่ยุ่งยากลงไปได้อย่างมาก โดยวิธีมองหาข้าวญี่ปุ่นไม่ต้องซาวน้ำก็ง่าย ๆ เพียงแค่ลองสำรวจหาตัวอักษร “無洗米 (Musenmai)” บนบรรจุภัณฑ์ เพราะเจ้าตัวอักษร 3 ตัวนี้มีความหมายว่า “เป็นข้าวที่ไม่ต้องซาว” ดังนั้น หากบนหน้าถุงมีคำนี้เขียนอยู่ก็ข้ามขั้นตอนการซาวข้าวไปขั้นตอนการหุงได้ทันทีเลย
- เลือกข้าวญี่ปุ่นสำเร็จรูปพร้อมทาน เพียงแค่เข้าเวฟ การหุงข้าวมีหลายขั้นตอนและจำเป็นต้องใช้เวลาพอสมควร ทำให้หลายคนที่ไม่มีเวลาต้องล้มเลิกความคิดในการทำอาหารทานเองไปอย่างน่าเสียดาย แต่ในปัจจุบันได้มีผลิตภัณฑ์ข้าวญี่ปุ่นสำเร็จรูปออกมาวางจำหน่ายหลากหลายยี่ห้อ เพื่อตอบโจทย์ชีวิตที่เร่งรีบ รวมถึงเพิ่มความสะดวกให้กับคนที่อาศัยอยู่ตัวคนเดียวในคอนโดมิเนียมหรือหอพัก เพราะแค่มีไมโครเวฟก็สามารถทานข้าวญี่ปุ่นร้อน ๆ ได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที ไม่ต้องพึ่งหม้อหุงข้าว โดยข้าวญี่ปุ่นสำเร็จรูป 1 แพ็ก จะปริมาณพอดีกับ 1 มื้อ เรียกได้ว่าอิ่มกำลังดี ไม่เหลือทิ้งหรือเหลือเก็บด้วย
- เลือกข้าวญี่ปุ่นให้เหมาะกับเมนูที่จะทำ อย่างที่เราทราบกันดีว่าข้าวญี่ปุ่นมีหลากหลายสายพันธุ์ และแต่ละสายพันธุ์นั้นล้วนมีรสชาติ ลักษณะเมล็ด และกลิ่นเฉพาะตัวที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งทำให้ข้าวแต่ละประเภทมีความเหมาะสมสำหรับนำไปประกอบอาหารหรือนำไปทานคู่กับเมนูต่างกันออกไป ฉะนั้นก่อนเลือกซื้อข้าวควรเลือกข้าวให้เหมาะกับเมนูที่จะทำ เช่น ข้าวสายพันธุ์ซาซานิชิกิ มาใช้ทำข้าวปั้นหรือซูซิ เพราะมีลักษณะเป็นเม็ดร่วนสวย ไม่เหนียวติดกันจนเกินไป และเลือกใช้ข้าวสายพันธุ์โคชิฮิคาริ มาใช้หุงทานคู่กับอาหาร เพราะข้าวมีรสชาติหวานนิด ๆ ช่วยเพิ่มอรรถรสในการทานอาหารให้ได้มากยิ่งขึ้น เป็นต้น
ประโยชน์
- ข้าวไม่ว่าจะเป็นชนิดใดย่อมเป็นแหล่งรวมคาร์โบไฮเดรต ซึ่งข้าวญี่ปุ่นเองก็ไม่ต่างกันค่ะ หากแต่คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่มีความเชื่อว่าการทานข้าวญี่ปุ่นนั้น ช่วยการทำงานของระบบย่อยอาหารดีขึ้น และดูดซึมพลังงานจากข้าวไปใช้ได้มากกว่าข้าวสาลีที่นำมาทำขนมปัง เส้นพาสต้า ที่อาจทิ้งพลังงานที่ใช้ไม่หมดให้กลายเป็นไขมันส่วนเกินได้ เนื่องจากเมื่อเราเคี้ยวข้าว เราจะหลั่งเอนไซม์อะไมเลสออกมา เพื่อช่วยในการย่อยสลายคาร์โบไฮเดรต และข้าวนั้นไม่มีส่วนผสมของไขมัน จึงทำให้ย่อยได้ค่อนข้างมากเลยทีเดียว
วิธีการหุงข้าวญี่ปุ่น
- เนื่องจากข้าวญี่ปุ่นนั้นมีลักษณะเฉพาะตัวที่แตกต่างไปจากข้าวไทย วิธีการหุงสุกจึงมีรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ต้องใส่ใจอยู่ด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อให้ได้ข้าวที่สุกกำลังดี มีเนื้อสัมผัสนุ่มหนึบและเหนียวเล็กน้อย ไม่แข็งแต่ก็ไม่แฉะ และต้องคงกลิ่นหอมน่าทานตามแบบฉบับของข้าวญี่ปุ่นแต่ละสายพันธุ์เอาไว้ด้วย โดยเริ่มจากการอ่านคำแนะนำที่ผลิตภัณฑ์ก่อนว่าเป็นข้าวที่ต้องซาวน้ำหรือไม่ ถ้าต้องซาวน้ำให้ใช้ฝ่ามือนวดวนเมล็ดข้าวเบา ๆ จนกว่าฝุ่นผงจะหลุดออกไปหมด ปกติจะซาวน้ำเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น แต่บางผลิตภัณฑ์ก็อาจแนะนำให้ซาวซ้ำจนกว่าน้ำจะใส ต่อมาให้แช่ข้าวญี่ปุ่นไว้ในน้ำสะอาดตามระยะเวลาที่กำหนดบนผลิตภัณฑ์ หรือถ้าไม่มีบอกไว้ก็สามารถใช้เวลาประมาณ 20 – 30 นาทีได้ เสร็จแล้วนำข้าวขึ้นเสด็จน้ำก่อนเทใส่หม้อหุง โดยสัดส่วนน้ำที่ต้องใช้จะมีบอกไว้บนผลิตภัณฑ์เช่นกัน สามารถเพิ่มหรือลดได้ตามเนื้อสัมผัสที่ชื่นชอบ หลังข้าวสุกใหม่ ๆ ให้พักทิ้งไว้ก่อนเพื่อให้ไอน้ำบางส่วนระเหยออกไป จากนั้นค่อยคนข้าวเบา ๆ จากล่างขึ้นบน พักไว้อีกประมาณ 3 – 5 นาทีก็สามารถนำไปปรุงเมนูอาหารที่ต้องการต่อได้แล้ว อีกเคล็ดลับสำคัญคือ หลังจากหุงเสร็จเป็นที่เรียบร้อย ให้ค่อย ๆ คนข้าวเบา ๆ จากล่างขึ้นบน เพื่อไล่น้ำส่วนเกินออก รวมถึงเช็ดหยดน้ำบริเวณด้านในฝาหม้อ เท่านี้ก็จะได้ข้าวญี่ปุ่นที่หอม นุ่ม อร่อยแล้ว อย่างไรก็ตาม ข้าวแต่ละสายพันธุ์อาจมีขั้นตอนการหุงที่แตกต่างกันเนื่องจากคุณสมบัติเฉพาะและกระบวนการการผลิตข้าว จึงควรอ่านขั้นตอนการหุงข้างบรรจุภัณฑ์ประกอบด้วย เพื่อให้หุงออกมาได้ถูกต้อง
สรุป
เป็นยังไงกันบ้างครับ ไม่ยากอย่างที่คิดกันใช่มั้ยล่ะ ทั้งการเลือกข้าวญี่ปุ่นแต่ละชนิด รวมไปถึงกรรมวิธีในการหุงข้าวญี่ปุ่น ที่เราได้นำมาฝากกันในบทความ เคล็ดลับวิธีการเลือกข้าวญี่ปุ่นให้ถูกต้องตามแบบฉบับของคนญี่ปุ่น และ สิ่งที่ควรต้องรู้เกี่ยวกับข้าวญี่ปุ่น เรื่องนี้ ซึ่งแน่นอนขั้นตอนอาจจะดูเยอะและละเอียดอ่อนแต่ทั้งหมดนี้ก็เป็นองค์ประกอบที่ทำให้ข้าวญี่ปุ่นนั้น อร่อยและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จนมีชื่อเสียงไปทั่วโลกนั่นเอง