สำหรับวันนี้เรามาเอาใจสายเนื้อกันต่อ เรียกได้ว่าถ้าคุณเป็นคนที่ชื่นชอบรับประทานเนื้อเป็นชีวิตจิตใจ คุณต้องห้ามพลาดบทความของเราเรื่องนี้เลย เพราะเราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับ เนื้อวากิว wagyu ว่ากันว่าคือที่สุดของเนื้อวัว จริงหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้เราจะพาทุกท่านไปหาคำตอบกัน แต่อย่างแรกก็ต้องมารู้กันก่อนว่าเนื้อวากิวนั้นคืออะไร แตกต่างจากเนื้อวัวปกติยังไง พร้อมประวัติความเป็นมาและเรื่องน่ารู้อีกมากมายเกี่ยวกับ เนื้อวัวจากญี่ปุ่นที่ได้รับการยอมรับว่าดีที่สุดในโลกกันครับ
เนื้อ Wagyu คืออะไร
เนื้อวากิว คือ เนื้อวัวจากประเทศญี่ปุ่นที่โดดเด่นเรื่องความนุ่มละลาย และ มีไขมันแทรกมากที่สุดในโลก โดยตัวไขมันแทรกในเนื้อแดงนี้จะเรียกว่า Marbling ซึ่งเจ้าตัวนี้แหละที่จะเป็นจุดชี้วัดคุณภาพหรือเกรดของเนื้อว่าอยู่ในระดับใด สำหรับเนื้อวากิวจะมาจากวัว 4 สายพันธุ์หลักของประเทศญี่ปุ่น โดยคำว่า “วะ” หรือ “วา” ภาษาญี่ปุ่น แปลว่า ประเทศญี่ปุ่น ส่วน “กิว” แปลว่า เนื้อวัว “วากิว” จึงภาษาญี่ปุ่นจึงแปลว่าเนื้อวัวจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งนอกจากวัวสายพันธุ์ดั้งเดิมของญี่ปุ่นแล้ว ต่อให้เป็นวัวจากต่างประเทศไม่ว่า จะเป็น อเมริกา , ออสเตรเลีย , หรือ ที่อื่น ๆ ถ้าได้ถูกนำมาเลี้ยงที่ญี่ปุ่นโดยวิธีการเลี้ยงแบบภูมิปัญญาคนญี่ปุ่น ก็จะถูดจัดว่าเป็นเนื้อวากิวได้ด้วยเช่นกัน จึงไม่แปลกที่เราจะเคยเห็นเนื้อวัว Angus ที่ติดธงชาติญี่ปุ่น หรือ เนื้อวัว Australia Wagyu ในร้านต่างอาหาร หรือ Beef Shop ได้ ส่วนวัวญี่ปุ่นทั้ง 4 สายพันธุ์จะมีอะไรบ้างนั้น เราไปรับชมกันเลยครับ
- พันธุ์ญี่ปุ่นขนดำ หรือ Japanese Black ภาษาญี่ปุ่นจะเรียกว่า คุโรเกะวากิว จะเป็นวากิวพันธุ์ที่มีเกรดดีอันดับต้น ๆ ของประเทศ ดั้งเดิมถูกนิยมเลี้ยงในภูมิภาคคันไซ และ ซุโกคุ แต่ในปัจจุบันก็ค่อนข้างแพร่หลายไปแทบทุกพื้นที่ เนื่องจากด้วยความต้องการในตลาดเป็นจำนวนมาก เพราะวัวสายพันธุ์นี้จะเป็นพันธุ์ที่ให้เนื้อแดงสด มีไขมันแทรกมากกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ แถมยังมีลำตัวที่ใหญ่ในขนาดที่โตเต็มวัยจะให้เนื้อเยอะมากกว่าพันธุ์อื่น ๆ เมื่อนำไปทำอาหารจะให้สัมผัสที่นุ่มละลาย จนถูกยกให้เป็นอันดับต้น ๆ ของวากิว แถมตัวเนื้อยังเต็มไปด้วยแร่ธาตุอย่าง โอเมก้า 3 และ โอเมก้า 6 ที่ดีต่อร่างกายอีกด้วย
- พันธุ์ญี่ปุ่นขนน้ำตาล หรือ Japanese Brown ภาษาญี่ปุ่นจะเรียกว่า อากะอุชิวากิว จะโดดเด่นเรื่องการให้ปริมาณเนื้อแดงเยอะ มีไขมันแทรกในระดับที่พอดีไม่มาเท่าพันธุ์ขนดำแต่จะมีรสชาติของเนื้อแดงที่หอมหวานกว่า เป็นเนื้อวัวที่เกิดมาเพื่อเอาใจคนรักสุขภาพเพราะตัวเนื้อจะมีไขมันเพียง 12 % เท่านั้น ส่วนวัวสายพันธุ์นี้จะนิยมเลี้ยงกันในจังหวัด มาโมโต้ และ จังหวัด โคจิ
- พันธุ์ญี่ปุ่นเขาสั้น หรือ Japanese Shorthorn ที่ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า อิวะเตะวากิว เป็นเนื้อวัวที่ให้โปรตีนสูง มีเนื้อที่บาง มีไขมันน้อย สังเกตุง่ายจากสีแดงเข้มโดยเนื้อวัวชนิดนี้จะมากับสีแดงที่เข้มมากกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ พร้อมให้กรดอะมิโนที่ช่วยสร้างรสชาติของเนื้อโดดเด่นขึ้นมาตั้งแต่สัมผัสแรก ส่วนวัวสายพันธุ์นี้จะนิยมเลี้ยงใน ภูมิภาค โทโฮคุ ตอนเหนือ
- พันธุ์์ญี่ปุ่นไม่มีเขา หรือ Japanese Polled คุมาโมโตะวากิว เป็นวัวที่มีขนาดใหญ่ให้ปริมาณเนื้อที่เยอะ แต่จะมีไขมันแทรกน้อยหรืออาจจะไม่มีไขมันเลยแล้วแต่การเลี้ยงดู ตัวเนื้อจะมีความเหนียวกว่าวากิวชนิดอื่น แต่จะมากับรสชาติที่เข้มข้น เหมาะกับการนำไปทำสเต๊ก ส่วนมากวัวพันธุ์นี้จะนิยมเลี้ยงในจังหวัด ยามางจิ
ซึ่งนอกจากนี้อย่างที่ทราบกันไปแล้วว่าวัววากิวจากญี่ปุ่นมีทั้งหมดกี่สายพันธุ์ ซึ่งก็อย่างที่ทราบกันว่าสายพันธุ์ญี่ปุ่นขนดำนั้นเป็นพันธุ์ที่ค่อนข้างนิยม และ สามารถทำเกรดได้สูงที่สุดในบรรดาวากิวทั้งหมด จึงถูกนิยมเลี้ยงกันอย่างแพร่หลายไปกันเกือบทุกจังหวัด และ เนื้อวากิวที่ได้รับความนิยมและโด่งดังมากที่สุดจะมีอยู่ 3 ที่ได้แก้่ เนื้อโกเบ จากจังหวัดเฮียวโงะ , เนื้อมัตสึซากะ จากจังหวัดมิเอะ , เนื้ออิดะ จากจังหวัดกิฟุ , เนื้อโอมิจาก เมืองชิกะ เป็นต้น ซึ่ง 2 ชื่อแรกคงจะไม่มีใครไม่รู้จัก และ 2 ชื่อหลังก็เป็นน้องใหม่มาแรงที่เตรียมแซงขึ้นมาอยู่ตลอด ซึ่งแต่ละจังหวัดนั้นก็จะมีพื้นที่และสภาพภูมิอากาศที่แตกต่างกัน รวมไปถึงวิธีการเลี้ยงกับอาหารการกินของวัวที่แตกต่างกัน ยิ่งทั้ง 4 ชื่อที่ยกตัวอย่างมาก็สามารถทำเนื้อวัวของตัวเองให้มีรสชาติและเอกลักษณ์เฉพาะตัวจนสามารถตั้งชื่อเป็นของตัวเองได้
สำหรับเกรดของเนื้อว่ากิวจะแบ่งออกเป็น 15 ระดับ ซึ่งอย่างที่เราได้กล่าวเอาไว้ในหลาย ๆ บทความว่าเนื้อ A5 คือเกรดที่สูงที่สุด ซึ่งการจัดระดับของเนื้อวากิวนั้นไม่ได้มาจากทางร้านหรือผู้บริโภค หรือ ฟาร์มแต่อย่างใด แต่เนื้อวากิวทั้งหมดจะถูกจัดเกรดโดย JMGA : Japan Meat Grading Asscoration หรือ สมาคมการจัดระดับเนื้อของประเทศญี่ปุ่น โดยจะแบ่งออกเป็น A.B.C โดยที่ A จะจัดเป็นเกรดสูงที่สุด โดยไล่ตั้งแต่ C ขึ้นมา ส่วนเลข 1-5 จะเป็นตัวบ่งบอกของปริมาณ Marbling หรือ ไขมันแทรกลายหินอ่อน ที่อยู่ภายในเนื้อแดง ยิ่งตัวเลขมากก็จะมีปริมาณไขมันที่มากขึ้นตามลำดับของตัวเลข ซึ่งนอกจากนี้เรื่องของ สีของเนื้อ , พื้นผิมสัมผัสของเนื้อ , สีของตัวไขมันแทรก ก็จะเป็นอีกหนึ่งตัวชีวัดของคุณภาพเนื้อด้วยเช่นกัน
เนื้อ Wagyu ใช้ไปทำเมนูอะไรได้บ้าง
- ชาบูชาบู หรือ จิ้มจุ่มแบบบ้านเรา ถ้าได้วัตถุดิบเป็นเนื้อวากิวสไลด์บาง ๆ นุ่มๆหอมๆละลายในปากมาเป็นวัตถุดิบหลักก็คือจะช่วยยกระดับความสุขของมื้อค่ำได้มาก
- สุกี้ยากี้ จะแตกต่างจาชาบูเล็กน้อยเพราะเป็นการใส่เนื้อลงไปพร้อมผักทุกอย่างให้สุกพร้อมกันซึ่งเมนูนี้จะทำให้น้ำซุปมีรสชาติเข้มข้นของเนื้อมากกว่า
- เทปันยากิ หรือ เท็ปปันยากิ ก็จะเป็นร้านอาหากระทะร้อนสไตล์ญี่ปุ่น ที่ส่วนมากจะมีเมนูที่ใช้วัตถุดิบจากเนื้อวากิวมาให้เลือกมากมายหลากหลาย แถมยังผ่านการรังสรรค์จากเชฟมืออาชีพอีกด้วย
- ยากินิกุ เป็นอีกหนึ่งรูปแบบที่นิยมมากที่สุดสำหรับการรับประทานเนื้อวากิว ด้วยลักษณะการย่างอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่เกิดมาเพื่อเนื้อวากิวโดยเฉพาะ
- ส่วนเมนูสเต็กก็นิยมไม่แพ้กัน โดยเฉพาะสเต๊กที่ปนดิบเล็กน้อยจะเหมาะมาก ๆ สำหรับเนื้อประเภทนี้
- ข้าวหน้าเนื้อเป็นอีกหนึ่งเมนูที่สามารถทานได้ทุกวันถ้ามีวัตถุดิบเหลือเฟือ
ราคา
สำหรับราคาเฉลี่ยของเนื้อ Wagyu
- A5 จะอยู่ที่กิโลกรัมละ 6,800 บาท
- A4 จะอยู่ที่กิโลกรัมละ 5,800 บาท
- A3 จะอยู่ที่กิโลกรัมละ 4,800 บาท
- A2 จะอยู่ที่กิโลกรัมละ 4,200 บาท
- A1 จะอยู่ที่กิโลกรัมละ 3,800 บาท
- เนื้อสันไหล่ Chuck roll จะอยู่ที่กิโลกรัมละ 3,000-3,500 บาท
- เนื้อสันนอก Striploin จะอยู่ที่กิโลกรัมละ 4,500-5,000 บาท
- เนื้อสันใน Tenderloin จะอยู่ที่กิโลกรัมละ 4,800-5,500 บาท
- เนื้อสันแหลม Rib eye จะอยู่ที่กิโลกรัมละ 4,500-5,500 บาท
สรุป
ก็สมกับเป็นสุดยอดแห่งเนื้อจริง สำหรับเนื้อวัววากิวจากญี่ปุ่น ที่ถูกยกให้เป็นราชาแห่งเนื้อวัวและเป็นที่ถูกอกถูกใจของผู้คนไปทั่วโลก และหวังว่าบทความของเราเรื่องนี้จะช่วยคลายข้อสงสัยที่ว่า เนื้อวากิว wagyu ว่ากันว่าคือที่สุดของเนื้อวัว จริงหรือไม่ ให้กับทุกท่านได้มากขึ้นนะครับ แต่ถ้าหากใครที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสายพันธุ์ต่าง ๆ อย่างเช่นสายพันธุ์ Matsusaka และ Kobe ที่สลับกันคว้ารางวัลไปเกือบทุกปี ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร เราจะพาทุกท่านไปเจาะลึกกันในครั้งหน้านะครับ ส่วนในวันนี้ทาง bluewolf-japan ก็ต้องขอตัวลาไปก่อน แล้วกลับมาพบกันใหม่นะครับ สวัสดีครับ