เคยสงสัยกันไหมครับว่าทำไมที่ประเทศญี่ปุ่นถึงนำปลาแทบจะทุกชนิดมารับประทานแบบดิบได้ โดยในบางชนิดก็เป็นปลาที่คล้าย ๆ บ้านเรา แต่ทำไมถึงนำมาทานดิบแบบที่ญี่ปุ่นไม่ได้ ซึ่งปลาอีกหนึ่งชนิดที่หลาย ๆ คนอยากรู้เลยนั่นก็คือปลามาได หรือ ปลากะพงนั่นเอง โดยในวันนี้เราจะพาทุกท่านไปพบกับ บทความ เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ ปลา Madai วัตถุดิบสุดพรีเมี่ยมจากประเทศญี่ปุ่น เรื่องนี้ ที่คนรักปลาต้องห้ามพลาด เพราะเราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับวัตถุดิบชนิดนี้กันอย่างลึกซึ้งกันเลย
ปลา Madai คืออะไร
- ปลา Madai หรือ มาได้ คือปลาทะเลญี่ปุ่นชนิดหนึ่ง ที่จัดอยู่ในตระกูล Sea Beam ตระกูลเดียวกับปลาอีคุด , ปลาทรายแดง และ ปลากะพงในบ้านเรา ที่มากับเนื้อสีขาวและรสชาติหวานมันจากไขมันแทรกที่มีอยู่มาก สำหรับปลาตระกูล Sea Beam ของประเทศญี่ปุ่นก็จะประกอบไปด้วยปลานานาชนิด ตั้งแต่ปลาคินเมได ปลาจิได และ ปลามาได้ก็จัดว่าเป็นปลาที่เกรดดีที่สุดของปลาตระกูลนี้ โดยจะแตกต่างจากปลากะพงบ้านเราอย่างชัดเจน โดยปลามาไดจะนิยมใช้เป็นอาหารในพิธีมงคล เช่นการมงคลสมรส หรือ งานเฉลิมฉลองต่าง เพราะชื่อของ มาได มีความหมายที่เป็นมงคลนั่นเอง และ อย่างที่เราทราบกันดีว่า คนญี่ปุ่นนั้นมีความละเอียดอ่อนในเรื่องของรสชาติมาก ๆ จึงมีการแบ่งชื่อเรียกของ ปลามาไดออกไปได้อีกหลายแบบตามช่วงอายุ , สถานที่ที่พบ , แบบที่อาศัยตามธรรมชาติ และ แบบที่เพราะเลี้ยง เช่น ถ้าเป็นปลามาได ที่จับได้ในทะเลนารุโตะก็จะเรียกกันว่า ปลานารุโตะ โดยส่วนมากจะจับได้ในช่วงเดือน ก.พ. ไปจนถึง เท.ย. เพราะเป็นช่วงที่ปลามาไดว่ายผาสนช่องแคบของทะเลนารุโตะพอดี ตามวัฏจักรในการใช้ชีวิตของมัน โดยปลานารุโตะจะมีไขมันที่น้อยกว่าแบบอื่น ๆ ปลาอะคาชิ จะเป็นชื่อที่ใช้เรียกปลามาไดที่จับได้ในทะเลอะคาชิในช่วงเดือน เม.ย. ถึง ก.ค. โดยส่วนมากปลามาไดในช่วงนี้จะมาพร้อมกับไข่ที่เต็มท้อง ส่วน โอไดจะใช้เรียกปลามาไดที่อยู่นอกฤดูกาลของมีน ซึ่งทั้ง 3 ชื่อที่กล่าวมาจะเป็นปลามาไดที่เติบโตและอาศัยอยู่ในธรรมชาติเท่านั้น ส่วนปลามาไดที่มีการเพราะเลี้ยง ก็จะถูกเรียกตามสถานที่เพราะเลี้ยง หรือ ชื่อของเมือง ๆ นั้นไปเลย และปลามาได้ที่ถูกยกให้เป็นปลามาได้คุณภาพดีที่สุดก็จะเป็นสายพันธุ์ มิยาบิมาได นั่นเอง
ปลา Madai แตกต่างจาก ปลา Miyabi Madai อย่างไร
ปลา Miyabi Madai คือสายพันธุ์ปลามาไดที่ดีที่สุด โดยศัพท์ทางการจะเรียกว่า Red Sea Beam คือปลามาไดที่ถูกเพราะเลี้ยงด้วยอาหารสูตพิเศษ ที่ได้คิดค้นและพัฒนาขึ้นมาใหม่ ให้ปลามาได้มีรสชาติและรสสัมผัสที่ดีเยี่ยมมากที่สุด โดยที่ผ่านการใช้เวลาคิดค้นปรับปรุงสูตรนานถึง 10 ปี จนกว่าสูตรจะนิ่งคงที่ ส่วนสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้ปลามิยาบิ มาได คือสายพันธุ์ที่ดีที่สุด มีดังนี้
- ปลามิยาบิ มาไดจำเป็นต้องผ่านมาตรฐานถึง 5 ข้อ ถึงจะเรียกว่าเป็นมิยาบิ มาได ได้
- 1. ปลามาไดจะถูกเลี้ยงในบ่อที่จำกัดจำนวน เพื่อให้ปลาได้มีพื้นที่ได้แวกว่ายเคลื่อนไหว ให้คล้ายกับสภาพแวดล้อมจริงมาดที่สุด ทำให้ปลานั้นผ่อนคลายไม่เกิดความเครียด
- 2. ปลามิยาบิ มาได ทั้งหมด จะถูกเลี้ยงในเขตซากะนะซุยซัน ของประเทศญี่ปุ่นเท่านั้นซึ่งเป็นสถานที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติมาก ๆ และ มีอากาศดีตลอดทั้งปี
- 3. ใช้สูตรอาหารที่เป็นรูปแบบเฉพาะตัว ที่ใช้เวลาคิดค้นมานานร่วม 10 ปี แถมไม่เปิดเผยข้อมูลด้วยว่าให้ทานอะไรเป็นพิเศษ
- 4. จะต้องผ่านการตรวจสอบสารเคมีทางเกษตรว่าไม่มีการใช้ยา หรือ สารเคมีใด ๆ ในการเพราะเลี้ยง
- 5. ปลามิยาบิมาได ทุกตัวจะมีการตรวจสอบคุณภาพก่อนทุกครั้ง ตั้งแต่ สี , ขนาด และ รูปร่าง
- คือเรื่องสถานที่เพราะเลี้ยง ก่อนที่จะนำมาเลี้ยงในเขต ซากะนะซุยซัน จะมีการอนุบาลลูกปลามิยาบิ มาได ที่เกาะฮากาตะ ของจังหวัดฟุกุโอกะ กันก่อนเพราะแหล่งน้ำกับทรัพยากรของที่นั่นจะเหมาะกับการอนุบาลมากที่สุด เพราะสะอาดปราศจากโรคภัย แถมยังเป็นพื้นที่ที่ได้รังความเสียหายจากภัยพิบัติน้อยกว่าที่อื่น ๆ พอปลามิยาบิ มาได มีขนาดความยาวได้ 20 เซนติเมตร ก็จะถูกย้ายมาเลี้ยงในเขตซากะนะซุยซันอีกที
- ปลามิยาบิมาได เป็นปลาที่สามารถนำมาประกอบอาหารได้ทุกสัดส่วน แม้แต่เครื่องในเพราะถูกเลี้ยงมาในสูตรอาหารที่สะอาด ทำให้รับประทานได้ทั้งตัว ตั้งแต่หนังยันกระดูกกันเลย แถมยังอัดแน่นไปด้วยคุณประโยชน์อีกมากมาย
ประโยชน์ของปลา Madai
- สำหรับประโยชน์ของปลา มาได ก็เรียกได้ว่าให้ประโยชน์กับผู้ทานได้แทบกับทุกส่วนของร่างกาย ที่อัดแน่ไปด้วยสารอาหาร , แรธาตุ และ วิตามิน แต่ถ้าเป็นปลามิยาบิ มาได ที่ถูกเลี้ยงมาด้วยอาหารสูตรพิเศษ ก็จะอุดมไปด้วยสารอาหารที่มากกว่า ตั้งแต่โปรตีน เส้นใยอาหารทำให้ย่อยง่าย มีไขมันแทรกในปริมาณมากกว่าปลามาไดปกติ แต่ไขมันทั้งหมดล้วนเป็นไขมันที่ดี มีโอเมก้า 3 กับ DHA คอยช่วยบำรุงสมอง รวมทั้งยังเต็มไปด้วยแร่ธาตุอีกมากมาย ที่ประกอบไปด้วยธาตุเหล็ก ธาตุสังกะสี และ อัดแน่นไปด้วยวิตามินนานาชนิด เช่น วิตามินบี 1 , 2 , 12
เมนูยอดนิยม ที่นำปลา Madai มาใช้
- Sushi
- Sashimi
ซึ่งนอกจาก 2 เมนูนี้ ก็ยังสามารถนำไปประกอบอาหารได้แทบจะทุกประเภทตั้งแต่ ต้ม , ย่าง , ผัด , ทอด แต่ก็อาจจะไม่นิยมเท่ากับ 2 เมนูที่กล่าวมา
สรุป
เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในปลาเนื้อขาวอีกหนึ่งชนิดที่คนญี่ปุ่นชอบมาก ๆ และ มีอยู่ในร้าน Sushi เกือบจะทุกเมนู และ ก่อนจากกันในครั้งนี้ เราหวังว่าบทความ เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ ปลา Madai วัตถุดิบสุดพรีเมี่ยมจากประเทศญี่ปุ่น เรื่องนี้ จะช่วยให้ทุกท่านได้รู้จักกับวัตถุดิบชนิดนี้กันมากขึ้น เพราะเป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่ใครเคยได้ลองแล้วก็จะถูกจัดให้อยู่ในลิสต์เมนูที่ต้องสั่ง กันอยู่เสมอเมื่อไปทาน Sushi และ ใครที่ยังไม่เคยลองทานเมนูนี้ อย่าลืมไปหาลองกันด้วยนะครับ ส่วนทานที่ไหนดี ก็สามารถเข้าไปดูร้าน Sushi ชื่อดังต่าง ๆ ที่เราแนะนำไว้ให้ ในบทความครั้งก่อน ๆ ได้เลยครับ ส่วนวันนี้ก็ต้องขอตัวลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ในบทความครั้งหน้านะครับ สวัสดีครับ