สำหรับวันนี้เรามาเอาใจสายนักดื่มกันบ้าง โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์คู่กับการรับประทานอาหารไปด้วย ก็ต้องห้ามพลาดสิ่งที่เรานำมาฝากกันในครั้งนี้เลย เพราะเราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับ สาเก ที่คนญี่ปุ่นยกให้ว่าดีที่สุด ผ่านบทความ 10 อันดับ สาแกยี่ห้อดังของประเทศญี่ปุ่น ที่นักดื่มชั้นเซียนยกให้เป็นที่สุดของบรรดาสาเกทั้งหมด เรื่องนี้กันครับ และ สำหรับใครที่ยังไม่ทราบว่า สาเก นอกจากจะเป็นเครื่องดื่มแอลกอร์ฮอแล้ว ยังเป็นเครื่องดื่มที่คนญี่ปุ่นนิยมดื่มคู่กับเมนูอาหารต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Sushi , Sashimi , Yakiniku และ อีกหลาย ๆ เมนู เป็นเครื่องดื่มที่ทำหน้าที่คล้าย ๆ กับไวน์ ที่พอดื่มเข้าไปจะช่วยเปิดต่อมรับรส และ ช่วยชูรสชาติของอาหารที่รับประทานได้เป็นอย่างดี ส่วนสาเกที่ดีที่สุดนั้นจะมีอะไรบ้าง เราไปรับชมกันเลยครับ
สาเก หรือ Sake
- อย่างแรกเรามารู้จักสาเกกันคร่าว ๆ ก่อนดีกว่า สำหรับสาเกนั้นจะมีอีกชื่อเรียกว่า ไวน์ข้าว เป็นเครื่องดื่มประเภทสุราที่หมักมาจากข้าวเป็นหลัก มีสีใสกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ คนญี่ปุ่นเรียกกันว่า นิฮงขู ซึ่งสาเกถูกนับให้เป็นหนึ่งในเหล้าที่สะอาดที่สุด เพราะนอกจากจะทำมาจากข้าวที่สีเปลือกออกมากถึง 30 เปอร์เซ็นขึ้นไปแล้ว น้ำที่ใช้ในการผลิตจะต้องเป็นน้ำสะอาดจากแหล่งน้ำธรรมชาติเท่านั้นถึงจะทำให้สาเกออกมารสชาติดีที่สุด นอกจากนี้คนญี่ปุ่นยังมีเทคโนโลยีอีกมากมายในปัจจุบันที่ทำให้ สาเก ที่เป็นเครื่องดื่มประจำชาตินั้น สะอาดปลอดภัยกลายเป็นขวัญใจของสายดื่มไปโดยปริยาย และ ก่อนจะไปดู 10 ยี่ห้อสาเกที่เรานำมาฝาก เราไปรู้จักกับสาเกแต่ละชนิดกันก่อนเลย
- ฮงโจโซ เป็นสาเกเซชุที่นำมากลั่นให้ละเอียดมากขึ้น โดยการสีข้าวออกถึง 70 เปอร์เซ็น เพื่อให้ได้รสชาติที่เข้มข้นขึ้น
- กินโจ คือ สาเกที่มีอัตราสีข้าวออกไปที่ 60 % เป็นสาเกระดับพรีเมี่ยม มีรสชาติหวานละมุน กลิ่นหอมหวนและมีราคาค่อนข้างสูง
- ไดกินโจ คือ สาเกที่ยกให้เป็นที่สุดแห่งวงการ จะมีอัตราการสีข้าวอยู่ที่ 50 % ทำให้ได้รสชาติที่หวานละมุนกำลังดี ผสมกับกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ และ มีราคาแพง
- จุนไม คือ สาเกข้าวบริสุทธิ์ที่ไม่ผสมเหล้าหรือปรุงแต่งรสชาติใด ๆ จะมีเพียงแค่ ข้าว น้ำ และ โคจิกับยีสต์ เท่านั้น ทำให้รสชาตินั้นจะไม่หวานและส่วนมากนิยมทานกันแบบร้อน
- เกนชุ คือ สาเกที่เมาที่สุด เพราะไม่ได้ใส่น้ำลงไปเจือปนเลยมีรสชาติที่เข้มข้นรุนแรง เหมาะกับคนคอแข็งเท่านั้น อารมณ์จะคล้าย ๆ กับเหล้าไหโบราณ ที่เปิดไหออกมาก็แถบน็อคกันเลย
10 อันดับ สาแกของประเทศญี่ปุ่น
Hakutsuru / Standard Jyosen
สาเกยี่ห้อแรกที่เราหยิบมาให้รับชมในครั้งนี้ การันตีด้วยรางวัล Superior Taste Award 3 ดาว ที่เป็นรางวัลสูงสุดของ International Taste & Quality Institute ปี 2016 เป็นสาเกประเภทจุนไมที่ผลิตจากโรงงานเก่าแก่อย่าง Hakutsuru ที่เปิดมาตั้งแต่ปี 1743 เป็นสาเกที่มีรสชาติกลมกล่อมดื่มง่าย นิยมดื่มทั้งแบบร้อนและเย็น แต่ส่วนมากคนจะนิยมดื่มกันในหน้าหนาวเพราะจะช่วยให้อุณหภูมิร่างกายอบอุ่น แถมยังนิยมดื่มคู่กับอาหารญี่ปุ่นได้เกือบทุกประเภท จะมีระดับแอลกอฮอล์อยู่ที่ 15 % ที่เรียกได้ว่ากินเยอะ ๆ ก็เมาได้เช่นกัน
แหล่งผลิต : โกเบ (Kobe)
ประเภทสาเก : จุนไม
ราคาเยน-บาท : ขนาด 750 ml. 5,000 เยน เงินไทยประมาณ 1,550 บาท
Tsutsumi Shuzo / Gokujo Tsutsumi
สำหรับใครที่ชอบดื่มวิสกี้แบบเพียว ๆ ล่ะก็ต้องห้ามพลาดกับ สาเกยี่ห้อนี้เลย เป็นสาเกประเภทไดกินโจที่ถูกยกให้เป็นหนึ่งในสาเกชนิดที่ดีที่สุด แถมกระบวนการผลิตของที่นี่ก็ยังใช้การบ่มในถังไม้อยู่ ทำให้ได้รสชาติที่นุ่มนวลและมีกลิ่นของไม้ติดมาคล้ายกับวิสกี้ชั้นดี
แหล่งผลิต : คิวชู (Kyushu)
ประเภทสาเก : ไดกินโจ
ราคาเยน-บาท : ขนาด 720 ml. 10,000 เยน เงินไทยประมาณ 3,050 บาท
Suishin / Kyukyoku no Suishin Daiginjo
สาเกสุดพรีเมี่ยมอีกหนึ่งชนิดที่ทั้งคนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวนิยมซื้อกลับไปเป็นของฝากคนสำคัญอยู่เสมอ เป็นสาเกที่ผลิตขึ้นโดยใช้น้ำจากภูเขาทาคาโนะ ทำให้มีรสชาติที่นุ่มนวลเป็นพิเศษ แถมยังให้ความสดชื่นกับความหวานที่ลงตัว และ มีระดับแอลกอฮอล์อยู่ 17 %
แหล่งผลิต : ฮิโรชิม่า (Hiroshima)
ค่าของสาเก : (SMV) : +3
ประเภทสาเก : ไดกินโจ
ราคาเยน-บาท : ขนาด 720 ml. 5,000 เยน เงินไทยประมาณ 1,520 บาท พร้อมกล่องไม้อันสวยหรู
Zaku / Miyabi-no-Tomo Nakadori Junmai Daiginjo
คือ เหล้าสาเกระดับพรีเมี่ยมแบบไดกินโจ ของจังหวัดมิเอะ ที่การันตีด้วยรางวัลสุดยอดสาเกแห่งปี 2018 มีรสชาติหวานหอมนุ่มนวล แถมขวดยังสวยงามน่าเก็บอีกด้วย
แหล่งผลิต : มิเอะ (Mie)
ค่าของสาเก : (SMV) : -1
ประเภทสาเก : จุนไม ไดกินโจ
ราคาเยน-บาท : ขนาด 720 ml. 2,350 เยน เงินไทยประมาณ 720 บาท
Hakkaisan / Awa
Awa เป็นสาเกที่ผลิตจากโรงกลั่น Hakkaisan เป็นเหล้าสาเกที่มีกระบวนการหมักในขวดตามธรรมชาติ ทำให้สีของสาเกมีความใสประกายน่ารับประทาน แถมกลิ่นก็หอมอบอวนขึ้นมาถึงจมูกตั้งแต่เปิดขวด
แหล่งผลิต : นีงาตะ (Niigata)
ค่าของสาเก (SMV) : -5
ประเภทสาเก : จุนไม ไดกินโจ
ราคาเยน-บาท : ขนาด 720 ml. 3,195 เยน เงินไทยประมาณ 970 บาท
Kikuhime / Kukurihime
หากพูดถึงสาเก ภาพแรก ๆ ที่คนไทยหลาย ๆ คนนึกถึงก็จะเป็นสาเกขวดเขียวยี่ห้อนี้นี่แหละ เพราะเป็นหนึ่งในสาเกยุคเริ่มต้นของช่วงที่สาเกเฟื่องฟูเลย เป็นสาเกที่จะต้องหมักมาอายุไม่น้อยกว่า 10 ปี ทำให้มีระดับแอลกอฮอล์มากถึง 17-18 % และ มีรสชาติที่เข้มข้น
แหล่งผลิต : อิชิกาวะ (Ishikawa)
ประเภทสาเก : จุนไม
ราคาเยน-บาท : ขนาด 720 ml. 23,900 เยน เงินไทยประมาณ 7,300 บาท
Miya Shuzo Shimehari / Junmai Ginjyo Yamada Nishiki
สำหรับสาเกยี่ห้อนี้ จะผลิตมาจากข้าวสายพันธุ์ Yamada Nishiki เท่านั้น ทำให้ได้รสชาติที่หวานนำเป็นเอกลักษณ์ปนกับกลิ่นหอม นิยมดื่มทั้งแบบอุ่นและเย็น
แหล่งผลิต : นีงาตะ (Niigata)
ค่าของสาเก (SMV) : ±0
ประเภทสาเก : จุนไม
ราคาเยน-บาท : ขนาด 720 ml. 1,770 เยน เงินไทยประมาณ 550 บาท
Asahi Shuzo / Kubota 1920 Junmai Daiginjo
สาเกอีกหนึ่งยี่ห้อที่จำหน่ายมาตั้งแต่ในปี 1920 มีรสชาติ หวานซ่อนเปรี้ยวเป็นเอกลักษณ์ และ มีกลิ่นหอมที่อบอวนฟุ้งกระจายไปทั่วโต๊ะอาหาร
แหล่งผลิต : นีงาตะ (Niigata)
ค่าของสาเก (SMV) : ±0
ประเภทสาเก : จุนไม ไดกินโจ
ราคาเยน-บาท : ขนาด 720 ml. 5,100 เยน เงินไทยประมาณ 1,550 บาท
Asahi Shuzo / Senshin
สาเกชนิดนี้คือหนึ่งในชนิดที่ถูกยกให้ดีที่สุด เพราะตั้งแต่ตอนทำข้าว ต้องผ่านกระบวนการผลิตถึง 72 ชั่วโมง จนขัดข้าวได้ละเอียดประมาณ 28 % จึงจำนำมาหมักอีกขั้น ทำให้ได้รสชาติที่กลมกล่อม หอมหวานน่ารับประทาน
แหล่งผลิต : นีงาตะ (Niigata)
ค่าของสาเก (SMV) : +2
ประเภทสาเก : จุนไม ไดกินโจ
ราคาเยน-บาท : ขนาด 720 ml. 5,200 เยน เงินไทยประมาณ 1,600 บาท
Nakano BC / KOZUE
เป็นสาเกประเภทจุนไมสุดพรีเมี่ยม ที่ผสมกลิ่นส้มแมนดารินกับพริกไทยญี่ปุ่นลงไปด้วย ทำให้ได้รสชาติที่เฉพาะตัวมาก ๆ เป็นสาเกที่เหมาะกับผู้ที่อยากจะเริ่มลองสาเกเลย
แหล่งผลิต : วาคายามะ (Wakayama)
ประเภทสาเก : จุนไม
ราคาเยน-บาท : ขนาด 700 ml. 3,500 เยน เงินไทยประมาณ 1,100 บาท
สรุป
เป็นยังไงกันบ้างครับกับ สาเกที่ขึ้นชื่อว่าดีที่สุดทั้ง 10 ยี่ห้อ ที่เราได้นำมาฝากทุกท่านกัน ในบทความ 10 อันดับ สาแกยี่ห้อดังของประเทศญี่ปุ่น ที่นักดื่มชั้นเซียนยกให้เป็นที่สุดของบรรดาสาเกทั้งหมด เรื่องนี้ หวังว่าจะช่วยให้คนที่กำลังอยากลิ่มรองสาเกที่ดีที่สุดจากประเทศญี่ปุ่น ได้เลือกดื่มในรูปแบบที่ชอบ และ รู้จักกับสาเกชนิดต่าง ๆ กันได้อย่างชัดเจนมากขึ้นนะครับ ส่วนในครั้งหน้าเราจะมีเรื่องสนุก ๆ อะไรมาฝากทุกคนอีกนั้น โปรดติดตามรับชมกันด้วยนะครับ สวัสดีครับ bluewolf-japan