สำหรับในครั้งนี้ เตรียมพบกับความพิเศษและความล้ำค่าของอาหาร ได้อย่างเต็มอิ่มจุใจไปกับ บทความ 5 เมนูอาหารท้องถิ่นของจังหวัดซากะ ที่คนรักอาหารญี่ปุ่นต้องลองสักครั้งในชีวิต เรื่องนี้ ที่แต่ละเมนูนั้นเป็นเมนูสุดเก่าแก่ ที่เป็นเอกลัษณ์เฉพาะตัวของจังหวัดซากะ ที่มีสูตรและกรรมาวิธีการทำที่เป็นสูตรลับเฉพาะตัวอยู่ทั้งหมด เป็นเหล่าเมนูอาหารที่จะทำให้เราสัมผัสได้ถึงความล้ำค่าของอาหารได้มากที่สุด ส่วนจะมีเมนูอะไรบ้าง เราไปรับชมกันในบรรทัดด้านล่างได้เลย
จังหวัด ซากะ
- จังหวัดซากะ คือจังหวัดที่ตั้งคร่อมอยู่ตรงกลางระหว่าง จังหวัด ฟุกุโอกะ และ นางาซากิ เป็นจังหวัดติดทะเลที่ใกล้กับแผ่นดินใหญ่ของทวิปเอเชียมากที่สุด เป็นจังหวัดที่เคยเป็นศูนย์การค้าสำคัญและเป็นจุดแลกเปลี่ยนวัฒนะธรรมกับชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นจังหวัดที่สำคัญมาก ๆ ในด้านการค้า มีของขึ้นชื่อประจำจังหวัดคือเครื่องปั้นดินเผา และ งานฝีมืออีกมากมาย ส่วนอีกหนึ่งเรื่องที่โดดเด่นไม่แพ้กันเลยก็คือเรื่องของอาหาร ที่จะมีเมนูอาหารท้องถิ่นให้เราเลือกทานอยู่หลายเมนู นอกจากนี้ด้วยความที่เป็นสถานที่ติดทะเล ที่มีสภาพอากาศอยู่ในระดับกลาง ๆ สดชื่นมีป่าและภูเขากระจายอยู่ทั่วเมือง จึงทำให้มีวัตถุดิบชั้นดีอยู่มากมายด้วยเช่นกัน และ ยังเป็นแหล่งผลิตวัตถุดิบชั้นดีอีกหลาย ๆ ชนิด ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น เราไปรับชมกันเลยครับ
5 เมนูอาหารท้องถิ่นของจังหวัดซากะ
- ปลาหมึกโยบุโกะ Yobuko คือ อาหารท้องถิ่นที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ประจำจังหวัดของที่นี่เลย เพราะที่เหนือสุดของจังหวัดซากะนั้นจะติดกับทะเลเก็นไค ที่เป็นแหล่งประมงชั้นดีของประเทศญี่ปุ่น ที่ทั้งจับและเพราะพันธุ์อยู่ในสถานที่แห่งนี้ และ สำหรับหมึกโยบุโกะ คือปลาหมึกสายพันธุ์ท้องถิ่น ที่โด่งดังและเป็นที่รู้จักไปทั่วญี่ปุ่น จากความอร่อยและรูปร่างหน้าตาที่สวยงาม เป็นเมนูที่จะช่วยยกระดับความหรูหราบนโต๊ะอาหารของคุณได้ ซึ่งคนที่นี่จะนิยมกินและเสิร์ฟกันมาแบบดิบ ๆ โดยจะหั่นเป็นแบบซาชิมิแล้วนำมาเรียงกันให้เป็นรูปร่างเดิมก่อนจะหั่น ทำให้ได้รูปร่างหน้าตาที่สวยงาม บวกกับสีใสของตัวปลาหมึกโยบูโกะด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เมนูนี้ดููน่ากินมาก ๆ ซึ่งใครที่ไม่ชอบของดิบแต่ก็อยากจะลองทานเมนูนี้ก็ไม่ต้องเสียใจไปเพราะที่นี่ยังมี อีกหลาย ๆ เมนูที่ทำมาจากปลาหมึกชนิดนี้ แบบที่เราไม่ต้องทานดิบ อย่างเชี่นเกี๊ยวปลาหมึก หรือ เทมปุระ ก็มีให้ทานด้วยเช่นกัน แต่ถ้าจะให้อร่อยที่สุดก็แบบดิบนี่แหละครับ
- สาหร่ายซากะ คือ วัตถุดิบที่เราจะพบเห็นอยู่ในเมนูอาหารญี่ปุ่นแทบจะทุกเมนู ซึ่งก็มีน้อยคนนักที่จะรู้ว่าสาหร่ายที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนกัน แต่ทำไมบางตัวกลับมีรสชาติที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง และ สำหรับที่แห่งนี้ของขึ้นชื่ออันดับต้น ๆ ประจำจังหวัด ก็คือสาหร่าย เพราะที่แห่งนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งผลิตสาหร่ายญี่ปุ่นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ เพราะตำแหน่งของจังหวัดสากะเป็นจุดที่มีสาหร่ายทะเลอยู่เป็นจำนวนมาก แต่แค่ความที่มันมีมากก็คงไม่ทำให้สาหร่ายของที่นี่กลายเป็นของขึ้นชื่อสุดโด่งดังได้อย่างแน่นอน หนึ่งสิ่งที่ทำให้สาหร่ายซากะโด่งดังไปทั่วญี่ปุ่นและมีคนจองตลอดเลย ก็เป็นเพราะจุดทีสาหร่ายเจร็ญเติบโต หรือ ทะเลของจังหวัดซากะนั้น เป็นทะเลที่เป็นปลายทางของแม่น้ำมากกว่า 100 สาย ทำให้สาหร่ายเจร็ญเติบโตได้ดี มีรสชาติอร่อย และ สามารถผลิตได้ตลอดทั้งปี เป็นวัตถุดิบที่อุดมไปด้วยประโยชน์และดีต่อสุขภาพ ซึ่งใครที่ชอบสาหร่าย ๆ ลองหาสาหร่ายของจังหวัดนี้ทานดูนะครับ เพราะปัจจุบันก็หาไม่ยากแล้ว
- Ureshino Yudofu คือ อาหารท้องถิ่นประจำเมืองอุเรชิโนะ เป็นเมืองทางตะวันออกของจังหวัดซากะ ซึ่งคำว่ายูไดฟุ ก็คือเต้าหู้ต้ม ซึ่งเป็นเมนูธรรมดาสุดเรียบง่ายของประเทศญี่ปุ่น ที่มีอายุเก่าแก่มาก ๆ ซึ่งเดิมทียูโดฟูนั้นจะเป็นของขึ้นชื่อประจำจังหวัดเกียวโต แต่สำหรับ Ureshino Yudofo จะแตกต่างออกไปเพราะที่นี่เขาจะต้อมด้วยน้ำจากบ่ออนเซ็นของเมือง ที่เปรียบเสมือนน้ำแร่ธรรมชาติ ที่พอแร่ธาตุได้ลงไปทำปฏิกิริยาทางเคมีกับเต้าหู้ ทำให้เต้าหู้มีความนุ่มลื่นมากกว่าปกติ แถมยังได้รสชาติที่ดีมากกว่า ยูโดฟูแบบปกติด้วย ส่วนสาเหตุที่เมนูนี้เป็นของขึ้นชื่อประจำจังหวัดนี้ได้ ก็เพราะที่นี่เป็นหนึ่งในแหล่งผลิตถั่วเหลืองขนาดใหญ่อีกหนึ่งสถานที่ และยังใช้กรรมวิธีการปลูกที่เป๋นแบบเฉพาะตัวทำให้ ได้รสชาติที่โดดเด่นไม่ซ้ำใคร
- Saga Beef คือ เนื้อวากิวของจังหวัดซากะที่ถูกผลิตมาจาก วัวญี่ปุ่นขนดำหรือ Kuroge Wagyu เท่านั้น ถึงจะเรียกว่าเป็นเนื้อซากะได้ ส่วนมากเนื้อซากะที่เห็นกันในปัจจุบันล้วนแต่มาจากฟาร์ม JA ที่จะต้องผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มงวดก่อน ซึ่งจุดเด่นของเนื้อซากะอย่างแรกเลยก็คือ ไขมันลายหินอ่อนที่แทรกอยู่ในตัวเนื้อ จนถูกยกให้เป็นเนื้อวากิวที่มีหไขมันลายหินอ่อนสวยที่สุดในบรรดาเนื้อวากิวทั้งหมด ด้วยความที่เนื้อมีไขมันแทรกอยู่มากทำให้เนื้อมีความชุ่มฉ่ำ กับ รสชาติหวานละมุน ในรสสัมผัสที่นุ่มละลาย แบบไม่แพ้ 1 ใน 3 สุดยอดเนื้อวากิวสายพันธุ์อื่น ๆ เลย ซึ่งสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้เนื้อวัวของที่นี่มีรสชาติที่ดี และ มีเกรดสูงอยู่ตลอดเวลา ข้อแรกเลยคือเรื่องของความเอาใจใส่ในการเลี้ยงดู อาหารที่ให้เก็ป็นอาหารสูตรพิเศษ บวกกับสภาพอากาศของที่แห่งนี้มีอากาศที่ร่มรื่นเย็นสบาย มีน้ำสะอาดให้วัวดื่มตลอดปี ซึ่งถือว่าเป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการเพราะเลี้ยงโคขุนมาก ๆ
- Ureshino Cha คือ ชาของจังหวัดซากะ ที่มีแหล่งผลิตอยู่ที่ เมืองอุเรชิโนะ ซึ่งเป็นสถานที่ที่เป็นแหล่งผลิตชามาอย่างยาวนาน หลายยุคหลายสมัย ซึ่งจากที่มีบันทึกไว้ว่าคนที่นี่เรื่มมีการเก็บชาชนิดนี้กันมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1648-1651 ที่เริ่มมีกิจการไล่ชาเกิดขึ้นในอุเรชิโนะ สำหรับชาของที่นี่จะแตกต่างออกจากชาของที่อื่น ๆ อยู่หลายจุด ตั้งแต่รูปร่างของใบ ที่อยู่ ๆ ก็กลายเป็นใบม้วน ที่ชาของที่นี่จะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบที่ไม่สามารถหาได้จากที่ไหน สำหรับรสชาติของชาของเมืองนี้จะเป็นชาที่มีรสชาติเข้มข้น เป็นชาชนิดหายากที่จะผลิดขึ้นมาเพียงแค่ปีละไม่กี่ครั้งเท่านั้น เป็นชาที่นอกจากจะใช้ชงดื่มได้อย่างอร่อยกลมกลอมแล้ว ยังสามารถนำไปทำอาหารได้อีกหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็น ชา-ชาบู ที่นำลงไปผสมในหม้อไฟน้ำซุปร้อน ๆ ของชาบู จะได้น้ำซุปที่รสชาตกลมกล่อม นอกจากนี้การนำลงไปต้มร่วมกับน้ำซุปดาชิก็สามารถน้ำไปเป็นน้ำซุปเบสได้ และ นอกจากนี้หากมาที่ ไร่ชาที่นี่ ในสถานที่ใกล้เคียงอย่าง บ่อน้ำชาร้อน ๆ ที่คุณสามารถลงไปแช่ได้เหมือนออนเซน และ จุดเด่นอีกหนึ่งอย่างที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ อายุของต้นชาสายพันธ์นี้ที่ว่ากันว่า มีอายุยืนหน้าไปเป็นหลัก 100 ปีเลย ซึ่งเป็นข้อดีที่เราจะได้ปกติ และ ว่ากันว่่าคุณโยชิมุระ จินเบ คือคนแรกที่นำชายสยน ที่ตั้งใจปลูกต้นชายักษ์ด้วยตนเอง และ อยู่มาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งก็มีอายุมาถึง 350 ปี แล้ว
สรุป
แล้วก็จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะครับ สำหรับบทความ 5 เมนูอาหารท้องถิ่นของจังหวัดซากะ ที่คนรักอาหารญี่ปุ่นต้องลองสักครั้งในชีวิต เรื่องนี้ ถูกอกถูกใจเพื่อน ๆ กันบ้างรึป่าว แล้ว มีเมนูไหนที่เพื่อน ๆ เคยทานกันแล้วบ้างไหม ส่วนในครั้งหน้าเราจะพาทุกคนไปพบกับบทความเรื่องอะไรอีกนั้นโปรดติดตามนรับชมกันด้วยนะครับ สวัสดีครับ bluewolf-japan