หากพูดถึงซูชิ หรือ ข้าวปั้นหน้าปลาดิบของประเทศญี่ปุ่น ก็คงจะไม่มีใครที่ไม่รู้จัก แต่จะรู้หรือไม่ว่า Sushi จากประเทศญี่ปุ่นนั้น ไม่ได้มีแค่รูปร่างหน้าตาเป็นข้าวปั้นหน้าปลาดิบอย่างเดียว แต่ยังแบ่งออกไปได้อีกมากมายหลายประเภท ซึ่งในวันนี้เราก็จะพาทุกท่านมารู้จักกับ Sushi อีกหนึ่งประเภท ผ่านบทความ Chirashi Sushi เมนูอาหารญี่ปุ่นสุดน่ารับประทาน ที่คนรักซูชิต้องหลงรัก เรื่องนี่ ซึ่งเมนูนี้ก็จะเป็นซูชิอีกหนึ่งประเภทที่คนญี่ปุ่นนิยมกันมาก ๆ โดยจะนิยมทำรับประทานกันในครัวเรือน ในโอกาสพิเศษต่าง ๆ ของครอบครัว เมนูนี้ก็จะเป็นหนึ่งในตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของแม่บ้าน หรือ ภรรยาคนญี่ปุ่นเสมอ เพราะค่อนข้างทำได้ง่ายแถมยังอัดแน่นไปด้วยสารอาหารมากมาย จากวัตถุดิบนานาชนิดที่ใส่ลงไป ซึ่งเมนูนี้ในปัจจุบันก็ถูกนำมาอยู่ในร้านอาหารมากขึ้น จนได้รับความนิยมที่แพร่หลายมากกว่าในครัวเรือนเหมือนแต่ก่อน และ เมนูนี้จะมีรายละเอียดกับสิ่งที่น่าสนใจอย่างไรบ้างเราไปดูกันเลย พร้อมบอกเคล็ดไม่ลับที่จะช่วยให้ทุกท่านสามารถทำเมนูนี้รับประทานที่บ้านได้เองอีกด้วย สำหรับใครที่รักซูชิต้องห้ามพลาดเลย
Chirashi Sushi คืออะไร
- จิราชิซุชิ (Chirashi Sushi) คือ เมนูอาหารของคนญี่ปุ่น ที่ดั้งเดิมกำเนิดมาจากการทำรับประทานกันในครัวเรือนเพื่อเลี้ยงฉลองให้กับคนในครอบครัว เช่น วันเรียนจบ , ได้ที่ทำงานใหม่ , หรือ จะเป็นวันครบรอบ และ เทศกาลฉลองต่าง ๆ เมนูนี้ก็จะเป็นตัวเลือกแรก ๆ เสมอ เพราะค่อนข้างทำได้ง่าย และ อิ่มอร่อยกันได้ทั้งครอบครัว ซึ่งคำว่า ชิราชินั้น ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า กระจัดกระจาย จึงทำให้กลายเป็นจุดเด่นที่ทำให้เมนูนี้ดูน่ารับประทานมากขึ้น จนทำให้ในยุคปัจจุบันเมนูนี้ก็เริ่มเป็นที่แพร่หลายมากขึ้น โดยถูกจัดเข้ามาอยู่เป็นหนึ่งในเมนูของร้านอาหารญี่ปุ่นหลาย ๆ ร้าน โดยเฉพาะร้านซูชิ หรือ แม้การรับประทาน Sushi แบบ Omakase เองในบางครั้งเชฟก็จะรังสรรค์เมนูนี้มาให้รับประทานด้วยเช่นกัน ส่วนรสชาตินั้นก็เต็มไปด้วยความหลากหลายของวัตถุดิบด้านในที่ผสมกันออกมาได้อย่างลงตัว เหมือนกับว่าเป็นข้าวหน้าซูชินานาชนิดเลย และเมนูนี้ก็เป็นเมนูอาหารญี่ปุ่นที่ทำไม่ยาก และ สามารถทำรับประทานเองที่บ้านได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งจะมีขั้นตอนการทำอย่างไรบ้าง เราไปรับชมกันเลย
- ซึ่งกระบวนการทำก็จะใช้ข้าวญี่ปุ่นแบบหุงสุกมาคลุกกับน้ำส้มสายชู แบบเดียวกับข้าวปั้นของซูชิ แต่จะใส่น้ำน้อยกว่าเล็กน้อยเพื่อให้ตัวข้าวนั้นแห้งมากกว่าที่ใช้ทำซูชิปกติ เพราะจะนำมาคลุกกับน้ำส้มสายชูที่ใช้ปริมาณเยอะกว่านั่นเอง หลังจากนั้นนำข้าวมาใส่ในภาชนะทรงกลมขนาดใหญ่ โดยจะมีข้าวเป็นชั้นร่างสุด ปูหน้าด้วยไข่หวาน หรือ จะไม่ปูก็ได้ พร้อมท็อปปิ้งด้วยปลาดิบหน้าต่าง ๆ ตามวัตถุดิบที่มี ส่วนวิธีการทำสิ่งที่ต้องมีเลย คืออ่างไม้สำหรับผสมข้าวซูชิ ให้นำข้าวญี่ปุ่นที่หุงสุกแล้วมาใส่ใน Hangiri หลังจากนั้นค่อยนำน้ำส้มสายชูที่ปรุงสำหรับทำข้าวซูชิแล้วมาเทใส่ลงบนข้าว หลังจากนั้นค่อย ๆ คนให้น้ำส้มสายชูผสมกับข้าวทั้งหมด โดยที่จะต้องไม่ให้ข้าวเละหรือแตกเม็ดเด็ดขาด พอหลังจากนั้นค่อยใส่ท็อปปิ้ง ปลาดิบที่เป็นหน้าซูชิลงไป หรือ จะเป็นวัตถุดิบต่าง ๆ ที่ชื่นชอบ โดยวัตถุดิบที่นิยมใช้กันมากที่สุดก็จะมี ไข่หวาน , กุ้ง , ไข่ปลาแซลม่อน , ถั่วลันเตาญี่ปุ่น , สาหร่าย และ ปลาทะเลต่าง ๆ แต่ถ้าหากท่านใดที่ยังไม่รับประทานเลยแนะนำว่าอย่าพึ่งวางท็อปปิ้ง เพราะอาจจะทำให้เสียรสชาติได้ ให้หาผ้าขาวบางชุบน้ำคลุมเข้าเพื่อรักษาอุณหภูมิข้าวไว้ก่อนได้ ซึ่งวิธีนี้ช่วยให้เก็บข้าวซูชิที่กวนแล้วให้อยู่ได้นาน 1-2 วัน ซึ่งเมนู จิราชิซูชินี้ ยังมาเมนูอาหารที่รูปร่างหน้าตาคล้ายกันอีก 2 ประเภท ที่อาจจะทำให้สับสนและอาจไปสั่งผิดกันได้ ซึ่งทั้ง 2 เมนูนั้นจะเป็นอะไร ไปดูกันในบรรทัดถัดไปเลยครับ
Chirashi Sushi มีเมนูอะไรบ้าง
- Kaisen-Dong คือเมนูที่อาจจะทำให้คนสั่งนั้นสับสนกันได้ เพราะมีรูปร่างหน้าตาที่เหมือนกับจิราซูชิมาก ตั้งแต่การจัดวางหน้าด้วยอาหารทะเลนานาชนิดเหมือนกัน แต่ไคเซ็นด้งนั้นจะใช้เป็นข้าวสวยธรรมดาแทนโดยจะไม่ผสมน้ำส้มสายชูเหมือนกับจิราชิซูชิ เพราะฉะนั้นใครที่อยากรับประทานจิราชิซูชิ ก็อย่าไปหลงสั่งไคเซนด้งแล้วคิดว่าเหมือนกันล่ะ
- บาระซูชิ ก็เป็นเมนูที่เหมือนกับชิราซูชิมาก ๆ หรือ เราจะเรียกว่า บาระ จิราชิซูชิ ก็ยังได้ เพราะจะใช้ข้าวคลุกน้ำส้มสายชูเหมือนกับจิราชิซูชิ จึงทำให้ผู้คนในแทบคันโตนั้นเรียกเมนูนี้ว่า จิราชิซูชิ ด้วยเช่นกัน แต่ถ้าเป็นแทบคันไซนั้นจะเรียกว่าบาระซูชิ ที่แยกออกจากจิราชิซูชิอย่างชัดเจน เพราะทั้ง 2 ประเภทจะต่างกันตรงที่ บาระซูชินั้น จะเป็นการหั่นเครื่องเคียงชนิดต่าง ๆ เป็นชิ้นเล็ก ๆ พอดีคำ และ นำมาวางให้กระจัดกระจายผสมกันมากที่สุด ตามความหมายของคำว่า บาระ ที่แปลว่า แยกชิ้นส่วน หรือ ทำให้กระจัดกระจายนั่นเอง ซึ่งในบางร้าน ก็จะคลุกข้าวกับเนื้อปลามาให้เลย
- จิราชิด้ง สำหรับเมนูนี้ก็จะเป็นชิราซูชิอีกหนึ่งรูปแบบแต่จะเสิร์ฟมาในชามข้าวแทนจึงเรียกว่าจิราชิด้ง และ สาเหตุที่ไม่ได้เรียกไคเซ็นด้ง เหมือนเมนูที่ 1 คือ เมนูนี้จะใช้ข้าวที่ผสมกับน้ำส้มสายชูเหมือนกับจิราชิซูชิเลย และ เมนูนี้จุดที่แตกต่างนอกจากจะเสิร์ฟมาในชามข้าวแล้ว ยังมากับปลาดิบ และ อาหารทะเลชิ้นโตที่อัดแน่นมาบนล้นจานปิดบังข้าวจนมิดชาม แบบที่มองไม่เห็นเนื้อข้าวเลย
สรุป
เป็นยังไงกันบ้างครับกับเมนูข้าวหน้าซูชิชามโตที่ท่านเองก็สามารถทำกินได้ที่บ้าง อย่างเมนู จิราชิซูชิ ที่เราได้นำมาฝากทุกท่านกันผ่าน บทความ Chirashi Sushi เมนูอาหารญี่ปุ่นสุดน่ารับประทาน ที่คนรักซูชิต้องหลงรัก เรื่องนี่ หวังว่าจะช่วยสร้างความเข้าใจให้กับผู้ที่ชื่นชอบซูชิได้มาก ๆ เพราะแต่ละเมนูนั้นก็มีรูปร่างหน้าตาที่ค่อนข้างคล้ายกัน แต่อาจจะรสชาติไม่เหมือนกันเลยก็ได้ และ สำหรับใครที่ชื่นชอบผลงานของเรา สามารถติดต่ามบทความรีวิวอาหารญี่ปุ่นทั้งหมดของเราได้ที่ เว็บไซด์ ด้านนี้เลย ส่วนในวันนี้ก็ต้องขอตัวลาไปก่อนแล้ว และ ในครั้งหน้าจะเป็นบทความเรื่องอะไรนั้นโปรดติดตามกันด้วยนะครับ