หอยเชลล์คือหนึ่งวัตถุดิบชั้นยอดของประเทศญี่ปุ่น ที่เรียกกันในชื่อหอย Hotate เป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู และ ยังนับได้ว่าเป็นหนึ่งในหอยชนิดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของประเทศญี่ปุ่นด้วย ซึ่งในวันนี้เราก็จะพาทุกท่านไปพบกับ บทความ Hotate หรือ หอยเชลล์ญี่ปุ่น แตกต่างกันกับของบ้านเราอย่างไร มีเรื่องอะไรที่เราควรรู้ไว้ก่อนรับประทานบ้าง เรื่องนี้ ที่คนชอบทานหอยต้องห้ามพลาดเลย เพราะสิ่งที่เรารวบรวมมาให้ในวันนี้เชื่อว่าจะช่วยทำให้ทุกท่านได้รับประสบการณ์การทานหอยเชลล์ให้อร่อยมากขึ้นได้ พร้อมพาไปดูแหล่งผลิตหอยเชลล์ชั้นดีของประเทศญี่ปุ่นด้วย เราไปรับชมพร้อม ๆ กันเลยครับ
หอย Hotate
- สำหรับหอยเชลล์ หรือ หอย Hotate ของประเทศญี่ปุ่น ก็อาจจะมีหลายคนที่เคยทานกันมาบ้างแล้ว แต่ก็เชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่ยังไม่เคยลองทานหรือ ไม่มีโอกาสได้เจอหอยเชลล์คุณภาพดีจากที่ญี่ปุ่นอย่างแน่นอน สำหรับหอยโฮตาเตะ ก็คือหอยเชล์ไซด์ยักษ์ ที่จะมีขนาดเท่าฝ่ามือเท่านั้น ถ้าเล็กกว่านี้คนญี่ปุ่นจะไม่จำขึ้นมารับประทาน เป็นหอยชนิดหนึ่งที่มีอายุเฉลี่ยเพียงแค่ 4 ปี เท่านั้น เป็นหนึ่งในเมนูที่ร้านอาหารญี่ปุ่นจะขาดไปไม่ได้ เป็นเมนูที่ได้รับความนิยมมาก ๆ ในอดีต ตั้งแต่ยุคสมัย Jomon หรือตั้งแต่ยุคสมัย 12,000-300 ปี ก่อนปี ค.ศ.เสียอีก ที่ได้รับความนิยมเรื่อยมา จนถึงขั้นเกิดเหตุขาดแคลนวัตถุดิบมาแล้ว จนต้องทำให้ประเทศญี่ปุ่นหันมาพากันเพราะเลี้ยงหอยเชลล์คุณภาพดีให้เพียงพอต่อความต้องการในตลาด จนในปัจจุบันเราสามารถรับประทานหอยเชลล์คุณภาพดี เกรดพรีเมี่ยมได้ตลอดทั้งปี แถมราคาก็ไม่สูงมากอีกด้วย
ถิ่นกำเนิดของหอย Hotate ที่ขึ้นชื่อที่สุด
- สำหรับแหล่งกำเนิดที่ขึ้นชื่อที่สุดของหอย Hotate หลัก ๆ จะมีอยู่ด้วยกัน 3 ที่ คือจังหวัด Hokkaido , จังหวัด Aomori , จังหวัด Miyagi โดยจะอาศัยอยู่ในพื้นทรายใต้ทะเลลึก ระดับ 20-30 เมตร และ สาเหตุที่ 3 จังหวัดนี้เป็นแหล่งที่ขึ้นชื่อมากที่สุด เพราะเป็นน่านน้ำที่อุดมสมบูรณ์ตลอด มีความสลับสับเปลี่ยนของอุณหภูมิในน้ำไปตามฤดูกาล เพราะจะทำให้ตัวหอยเชลล์ดูดทรัพย์สารอาหารจากธรรมชาติได้มากที่สุด จากแหล่งน้ำคุณภาพดี จนทำให้หอยของที่นี่มีรสที่ออกหวาน และ มีความหอมของกลิ่นทะเลมากกว่าหอยเชลล์จากที่อื่น ๆ
หอย Hotate แตกต่างกับ หอยเชลล์ที่บ้านเราอย่างไร
- สำหรับความแตกต่างระหว่างหอยเชลล์ญี่ปุ่นกับหอยเชลล์ไทย ที่พบได้ในบ้านเรา โดยอย่างแรกหอยเชลล์ญี่ปุ่นจะถูกเรียกว่า Hotate แต่หอยเชลล์ของไทยหรือของที่อื่น ๆ จะเรียกกันว่า Scallop โดนลักษณะของหอยเชลล์ไทยที่เห็นกันในบ้านเราจะเป็นหอยเชลล์แบบที่อาศัยอยู่ในดินทรายผสมกับเลน มีผิวของเปลือกฝาที่แบนเรียบ ลื่น มีสีออกส้มปนกับน้ำตาร โดยข้างในจะมีขนาดของหอยที่ไม่ใหญ่มากนัก สังเกตุได้ง่ายเพราะจะมีเนื้อส่วนสีส้มติดมาด้วย ลักษณะคล้ายกับลิ้น แต่จริง ๆ แล้วส่วนนั้นคือไขมันของหอยเชลล์ในบ้านเราที่เป็นลักษณะเด่น จนสามารถแยกได้อย่างชัดเจน โดยหอยเชลล์ไทยจะมีรสชาติที่ไม่หวานมาก มีเนื้อสัมผัสที่นุ่มหนึบหนับ นิยมนำมาปรุงอาหารก่อนมากว่าที่จะนำไปทานสด ส่วนหอยเชลล์ญี่ปุ่นหรือหอย Hotate จะเป็นหอยเชลล์ขนาดใหญ่ที่สามารถว่ายน้ำเคลื่อนที่ได้ด้วยการเปิด-ปิดฝาพับ เป็นหอยที่อาศัยอยู่ตามพื้นทรายในแหล่งน้ำที่สะอาดเท่านั้น มีขนาดตัวใหญ่ รสชาติหวานหอมเป็นเอกลักษณ์ สะอาดและมีคุณค่าทางโภชนาที่สูง จึงทำให้หอยเชลล์ของญี่ปุ่นมี่ราคาที่สูงกว่าหอยเชลล์ของประเทศไทย แต่ถ้านับกันจริง ๆ หอยเชลล์ Hotate ของประเทศญี่ปุ่นในบ้านเราก็มีเช่นกันแต่ค่อนข้างเหลือน้อย โดยจะรู้จักกันในชื่อหอยพัด แต่ในปัจจุบันนี้ดูเหมือนว่าท้องทะเลในบ้านเรามีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทำให้สามารถจับหอยเชลล์ได้เยอะมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาเลย
ประโยชน์ของหอย Hotate
- สำหรับประโยชน์ของอาหารทะเล หลาย ๆ คนก็คงทราบกันดีอยู่แล้วว่าอาหารทะเลแต่ละชนิดนั้นจะล้วนเต็มไปด้วยประโยชน์และคุณค่าทางอาหารอยู่มากมาย ซึ่งสำหรับใครที่ชื่นชอบทานเมนูนี้อยู่เป็นประจำก็ควรอ่านข้อนี้ไว้เช่นกัน เพราะคุณนั้นอาจจะได้รับสารอาหารที่ดีต่อร่างกายจนทำให้สุขภาพดีขึ้นโดยที่ไม่รู้ตัว โดยหอยเชลล์ญี่ปุ่นหรือ Hotate นั้น ก็จะเต็มไปด้วยโปรตี , วิตามิน B1 และ กรดอะมิโน Taurine ที่ช่วยพัฒนาระบบการทำงานของสายตา และ สมอง ได้ดี แถมยังเป็นวัตถุดิบที่มีแคลอรี่ต่ำ จนทำให้ช่วยยับยั้งการทำงานสะสมของไขมัน Cholesterol ที่เป็นไขมันไม่ดีไม่ให้เข้าสู่ร่างกายเราได้ นอกจากนี้ยังสามารถช่วยลดอาการความดันโลหิตสูงให้กับผู้สูงอายุได้ด้วย รวมถึงการเป็นวัตถุดิบที่มีโปรตีนสูงแคลอรี่ต่ำจึงเหมาะกับนักกีฬาที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อ และ คนที่อยากลดน้ำหนักมาก ๆ อีกหนึ่งอย่าง
เหล่าเมนูเด็ดจากหอย Hotate
- สำหรับเมนูเด็ดของหอยเชลล์นั้นก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบที่สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนูมาก ๆ โดยสำหรับใครที่ชอบรับประทานรสชาติดั้งเดิมของวัตถุดิบแบบธรรมชาติ ก็จะแนะนำให้ทานแบบ Sashimi ถ้าคุณเจอหอยเชลล์คุณภาพดีคุณจะรู้สึกได้ตั้งแต่สัมผัสแรกที่กัดลงไปเลย โดยส่วนมาคนจะนิยมนำ Lemon มาบีบลงไปบนเนื้อก่อนเล็กน้อยและตามด้วยวาซาบิ จะช่วยให้รสชาติหวานหอมกลิ่นทะเลของหอยเชลล์ ผสมกับรสหวานเปรี้ยวจาก Lemon และ ความฉุนของ Wasabi จนมันเข้ากันได้อย่างลงตัว ที่กินไปแล้วก็สดชื่นกระปรี่กระเป่ามาก ๆ แถมยังเป็นเมนูที่ช่วยแก้อาการเมาค้างได้ดีมาก ๆ ส่วนเมนู Sushi จะให้สัมผัสที่ชุ่มฉ่ำมากขึ้นเมื่อเคี้ยวรวมกับข้าวก็จะได้รสชาติที่ออกมาลงตัวมาก ๆ ใครที่รักซูชิของให้ลองทานเมนูนี้เลย นอกจากนี้เมนู Hotate ชุบแป้งเทมปุระทอดก็จะให้ทั้งความกรอบนอกนุ่มในที่คุณรักของทอดจะต้องหลงรัก ส่วนเมนูสากลยอดนิยมที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือหอยเชลล์อบชีส ที่เราจะพบได้ตามร้านข้างทางตามย่าน Street Food ของประเทศญี่ปุ่น ที่เป็นเมนูยอดฮิตอันดับหนึ่งของนักท่องเที่ยวเลย เพราะทั้งทานง่ายและอร่อยมาก ๆ โดยเสน่ห์ของเมนูนี้ก็คือเวลาเนื้อหอยเชลล์สุกนั้นจะมีกลิ่นชีสผสมเข้ามากับรสชาติดั้งเดิมในเนื้อหอยเชลล์ด้วย ทำให้ความอร่อยนี้ไปรวมกันอยู่ในปาก แถมเนื้อสัมผัสของหอย Hotate เวลาสุกนั้นก็จะมีความนุ่มเด้งมาก ๆ โดยที่ไม่เหนียวแต่อย่างใด แต่ก็ขอเตือนไว้ก่อนว่าถ้าสุกแล้วก็อย่าทิ้งไว้นานนะครับ เพราะจะทำให้เสียรสชาติได้ง่าย ๆ
สรุป
หากพูดถึงหอยเชลล์ก็คงเป็นเมนูโปรดของใครหลาย ๆ คนกันอยู่แล้ว และ เพื่อให้ทุกท่านได้รู้จักคุณค่าทั้งหมดและรับประทานอาหารชนิดนี้ให้อร่อยมากขึ้น เราจึงได้จัดทำบทความ Hotate หรือ หอยเชลล์ญี่ปุ่น แตกต่างกันกับของบ้านเราอย่างไร มีเรื่องอะไรที่เราควรรู้ไว้ก่อนรับประทานบ้าง เรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นแนวทางให้กับ ผู้ที่ชื่นชอบทานหอยเชลล์ทุกท่าน เพื่อรู้จักแหล่งผลิตหอยเชล์คุณภาพดี รวมไปถึงข้อสงสัยที่ว่าหอยเชลล์บ้านเรากับหอยเชลล์ญี่ปุ่นนั้นแตกต่างกันอย่างไรได้ แต่สำหรับในปัจจุบันอย่างที่เรากล่าวเอาไว้ด้านบน ว่าในประเทศไทยตอนนี้มีสถิติการพบหอยเชลล์มากในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งนั่นอาจจะทำให้หอยพัดของบ้านเราที่เป็นหอยเกรดเดียวกับ Hotate นั้นกลับมาอยู่ที่ทะเลบ้านเราก็เป็นได้ และสำหรับวันนี้ทางเราก็ต้องขอตัวลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ในบทความครั้งหน้านะครับ สวัสดีครับ