หากพูดถึงเนื้อวัวที่มีสัมผัสนุ่มละลายเป็นเอกลักษณ์ กับรสชาติอันหอมหวานมาตั้งแต่กำเนิดโดยที่ไม่ต้องการซอสหมักเพิ่มเติม ก็คงต้องยกให้กับเนื้อวัววากิวจากญี่ปุ่น และ หนึ่งในสายพันธุ์ที่ขึ้นชื่อเป็นอันดับต้น ๆ เลยก็คือ Matsusaka Beef เนื้อวัว Wagyu เกรดพรีเมี่ยมสุดขึ้นชื่อ จากวัวสายพันธุ์ดั้งเดิมของญี่ปุ่น ที่ได้ในวัวญี่ปุ่นพันธุ์ขนดำ มาเลี้ยงในเมือง Matsusaka ของจังหวัด Mie ที่ผ่านการเลี้ยงดูและได้รับสูตรอาหารที่เป็นรูปแบบเฉพาะตัว จึงทำให้เนื้อ Matsusaka Wagyu นั้นเป็นที่โด่งดังในเรื่องรสชาติ และ เป็นเนื้อวากิวที่มีราคาสูงมากเป็นอันดับต้น ๆ ของเหล่าเนื้อวากิวจากทั่วทุกพื้นที่ ซึ่งในวันนี้ก็อย่างที่สัญญากันเอาไว้ในครั้งก่อน ว่าเราจะพาทุกท่านไปรับชมประวัติความเป็นมาของสุดยอดเนื้อวัววากิวจากญี่ปุ่นชนิดนี้กัน
เนื้อ Matsusaka
สำหรับเนื้อมัตสึซากะ คือ เนื้อวัววากิวที่ผลิตออกมาจากวัวสายพันธุ์ ทาจิมะ หรือ พันธุ์ขนดำของญี่ปุ่นที่อยู่บนเกาะทาจิมะ ในเมือง Matsusaka ที่ดั้งเดิมไม่ได้ถูกนิยมนำมาประกอบอาหารแต่จะนำมาใช้เป็นแรงงานในการเกษตรเสียมากกว่า ซึ่งจุดเด่นของวัวจากที่นี่โดยเขาจะนิยมเลี้ยงเฉพาะวัวพันธุ์เพศเมียเท่านั้น จนต่อมาในยุคเมจิ วัฒนธรรมตะวันตกของชาวต่างชาติก็เริ่มเข้ามาแพร่หลายมากขึ้น จึงทำให้ผู้คนในประเทศเริ่มหันมารับประทานเนื้อวัวเป็นจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้วัวเนื้อจาก Matsusaka นั้นถูกเลิกใช้เป็นแรงงานในการเกษตรในที่สุด และ หันมาเอาดีทางด้านการขุนเนื้อให้มีรสชาติดีและคุณภาพสูงแทน จนได้รับรางวัลสุดยอดเนื้อวัวจากกรมปศุสัตว์เนื้อวัวเชิงพาณิชย์แห่งประเทศญี่ปุ่น เป็นครั้งแรก เมื่อปี 1935 จนทำให้เนื้อวัว Matsusaka เป็นที่โด่งดังไปทั่วโลกมาจนถึงทุกวันนี้
ซึ่งสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้เนื้อ Matsusaka Wagyu เป็นเนื้อวัวคุณภาพที่ทุกคนต้องลองนั้น คือความพิถีพิถันในการเลี้ยงดูของคนญี่ปุ่น กับ กระบวนการการให้อาหารที่เอาใจใส่มาก ๆ เหมือนกับว่าเป็นการหมักเนื้อวัวของตนเองตั้งแต่กำเนิด และ ส่วนสำคัญคือการให้ความสุขกับวัวเช่นสปาวัวที่เราแทบจะไม่เคยเห็นที่ไหนนอกจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะมีรายละเอียดขั้นตอนการเลี้ยงดูอย่างไรจนได้รสชาติออกมาดีขนาดนี้ เราจะพาทุกท่านไปชมปัจจัยหลักในการเลี้ยงดูสักเล็กน้อย ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้นเราไปรับชมกันเลย
สำหรับการเลี้ยงดูของวัว Matsusaka จะคงเน้นไปที่วัวตัวเมียพันธุ์ขนดำเช่นเดิม แต่จะเลี้ยงด้วยวิธีการที่จะทำให้วัวมีความสุขมากที่สุด โดยจะเลี้ยงดูในโรงเรื่อนที่เรียบง่าย อากาศเย็นสบาย พื้นที่โดยรอบจะค่อนข้างเงียบสงบเพื่อให้วัวได้ผ่อนคลายมากที่สุด โดยจะไม่ให้วัวออกกำลังกายมากเกินไปเพื่อให้วัวมีไขมันมากกว่ากล้ามเนื้อ แถมยังมีการนวดหรือที่เรียกว่าการทำสปาวัวเพื่อเป็นการคลายกล้ามเนื้อแน่แต่ละวันด้วย แถมแปรงที่ใช้นวดจะต้องเป็นแปรงที่ทำจากฟางเท่านั้นด้วย จึงไม่แปลกที่คนชอบเรียกว่าเป็นวัวคุณหนู ส่วนกระบวนการให้อาหารนั้นก็จะเน้นไปที่อาหารที่มีเส้นใยเยอะ ๆ อย่างเช่นจำพวกข้าวสาลี , ข้าวโพด , หญ้าแห้ง , กากถั่วเหลือง และ อื่นอีกมากมาย เป็นอาหารประเภทที่วัวกินได้ทั้งวันเพื่อให้ท้องวัวขยายมากที่สุดจนวัวอ้วน และที่สำคัญวัวประเภทนี้จะต้องดื่มเบียร์อย่างน้อยสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง ฟังแล้วอาจจะตกใจวัวเนี่ยนะดื่มเบียร์ ซึ่งนี่ก็เป็นสูตรพิเศษอีกหนึ่งสูตรที่ทำให้วัวของ Matsusaka นั้นรสชาติดีมาก ๆ เพราะนอกจากเบียร์จะไปช่วยกระตุ้นความอยากอาหารให้กับวัวแล้ว การที่ให้วัวดื่มเบียร์เป็นประจำนั้นทางฟาร์มยังเชื่อว่าจะช่วยให้เนื้อวัวนั้นนุ่มมากยิ่งขึ้น เพราะได้หมักเบียร์ไปในตัวของวัวมาตั้งแต่ยังเล็ก และ ขุนนานถึง 3 ปี ซี่งวัวเนื้อปกตินั้นขุนเพียง 2 ปี ก็นำมาเชือดขายแล้ว จึงทำให้เนื้อ Matsusaka Wagyu นั้น มีคุณค่าทางโภชนาการที่สูง แถมยังมาพร้อมกับ โอเคก้า 3 กับ โอเมก้า 6 ที่มีมากกว่าพันธุ์อื่น ๆ และ ตัวไขมันแทรกที่มีมากกว่าใครนั้นยังเป็นไขมัดดีที่สามารถรับประทานได้ โดยไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย
และถ้าอยากรับประทานเนื้อวากิวให้อร่อยที่สุด เรามีเคล็ดไม่ลับอยากจะมาบอกให้ท่านผู้ชมทุกท่าให้ทราบกันเพื่อรับประทานเนื้อเกรดพรีเมี่ยมให้อร่อยที่สุด โดยอย่างแรกเลยถ้าคุณได้เนื้อวากิวระดับ A5 ที่มีรายไขมันหินอ่อนเต็มอัตราอย่างในภาพเลยนั้น ห้ามนำเนื้อไปหมักหรือใส่ซอสปรุงรสแต่อย่างใด เพราะอาจจะทำให้รสชาติดังเดิมของเนื้อนั้นหายหรือเปลี่ยนแปลงไป ถ้านำไปย่างก็ควรจะย่างที่ละฝั่งพอแค่น้ำด้านในเนื้อออกมาเท่านั้น ไม่ควรย่างให้สุกจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้ความนุ่มละลายของเนื้อนั้นหายไป หรือ ถ้าจะให้เข้าถึงมากกว่านี้ก็สามารถย่างเพียงด้านเดียวแล้วทานได้เลย แม้กระทั่งสายฮาร์ดคอร์ที่ชอบทานเนื้อดิบหากเป็น Matsusaka Wagyu เกรด A4-A5 ก็สามารถทานดิบได้ หรือ ถ้าต้องการนำไปทำอาหารประเภทชาบูก็จะใช้หลักการคล้าย ๆ กัน คือต้องระวังไม่ให้ชิ้นเนื้อนั้นสุกมากจนเกินไป ยิ่งถ้าเป็นการต้มแล้วจะยิ่งทำให้มันและน้ำของเนื้อละลายลงไปอยู่ในน้ำซุปมากกว่าบนชิ้นเนื้อนั่นเอง หรือ ถ้าเป็นเนื้อ A5 ที่บางและมีไขมันแทรกมาก ๆ ก็อาจจะหายไปได้ในพริบตาถ้าเผลอลวกนานจนเกินไป
สำหรับราคาก็จะมีอยู่หลายระดับ ขึ้นอยู่กับคุณภาพของเกรด และ ชิ้นส่วนที่นำมาขาย โดยราคาเฉลี่ยจะมีดังนี้
- เนื้อ Matsusaka Beef ส่วน สันนอกเกรด A4 จะอยู่ที่กิโลกรัมละ 6500 บาท
- เนื้อ Matsusaka Beef ส่วน สันนอกเกรด A5 จะอยู่ที่กิโลกรัมละ 7500 บาท
- เนื้อ Matsusaka Beef ส่วน Rib Eyes เกรด A5 จะอยู่ที่กิโลกรัมละ 8900-11,000 บาท
สรุป
เรียกได้ว่าเป็นเนื้อวัวที่ได้รับการเอาใจใส่ตั้งแต่ขั้นตอนการเลี้ยงดู มาจนการเก็บรักษาที่ล้วนเป็นวิธีการที่ละเอียดซับซ้อนทุกขั้นตอนจริง ๆ แถมอาหารการกินที่ส่วนมากจะใช้วัตถุดิบในพื้นที่เท่านั้น จนทำให้เนื้อวัวของที่นี่มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวจนยากที่จะเลียนแบบได้ จึงไม่แปลกใจที่เนื้อวัวจากเมือง Matsusaka ถึงได้โด่งดังและได้รับความนิยมไปทั่วโลก และก่อนจากกันในครั้งนี้ เราหวังว่าบทความ Matsusaka Beef เนื้อวัว Wagyu เกรดพรีเมี่ยมสุดขึ้นชื่อ จากวัวสายพันธุ์ดั้งเดิมของญี่ปุ่น ของเราเรื่องนี่ จะเป็นประโยชน์และมอบความสนุกให้กับ ผู้ที่รักการทานเนื้อเป็นชีวิตจิตใจได้กันทุกท่านนะครับ ส่วนในครั้งหน้าเราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับ Wagyu อีกหนึ่งสายพันธุ์ที่พูดชื่อไปแล้วใคร ๆ ก็ต้องรู้จัก ซึ่งจะเป็นเรื่องอะไรนั้น โปรดติดตามบทความของ bluewolf-japan ในครั้งหน้าด้วยนะครับ สวัสดีครับ